26 พฤศจิกายน 2563

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)





หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
 
 
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
[กลุ่มพัฒนาหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้]


 
  • คู่มือการใช้หลักสูตร  (ขอขอบคุณ : ข้อมูลจาก สสวท.)
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) : ระดับประถมศึกษา

http://www.scimath.org/e-books/8378/8378.pdf

https://drive.google.com/drive/folders/1hW2fPL0PAYYf97lPWLGifebqOWqQty94

  • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) : ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

http://www.scimath.org/e-books/8380/8380.pdf

https://drive.google.com/drive/folders/12a0Y3CvLirAKeza_ClV_lwIrtdqMtcCR

  • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) : ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

http://www.scimath.org/e-books/8379/8379.pdf

https://drive.google.com/drive/folders/16DPtxbbLztom-EUUG2yPzq6HMUOC4zVH

  • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) : ระดับการศึกษาภาคบังคับ

http://primaryscience.ipst.ac.th/?p=1349

  • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) : ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
    • รายวิชาพื้นฐาน

http://www.scimath.org/e-books/8415/flippingbook/files/assets/common/downloads/publication.pdf

  • รายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา

http://www.scimath.org/e-books/8416/flippingbook/files/assets/common/downloads/CuriculumManual%20Bio.pdf

  • รายวิชาเพิ่มเติม เคมี

http://www.scimath.org/e-books/8417/flippingbook/files/assets/common/downloads/AW%20Chemistry%20M4-M6%20OK.pdf

  • รายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์

http://www.scimath.org/e-books/8437/flippingbook/index.html

  • รายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ

http://www.scimath.org/e-books/8418/flippingbook/files/assets/common/downloads/CuriculumManual%20earth.pdf

  • สาระเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

http://www.scimath.org/e-books/8377/8377.pdf

https://drive.google.com/file/d/1gAEeUgwstgHoPfU25gR25AG7IZUfszPi/view

https://drive.google.com/file/d/1_owPHOj5UvtG-9jJTInP8mYdxvyaJGvw/view

  • สาระเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

http://www.scimath.org/e-books/8376/8376.pdf

http://oho.ipst.ac.th/cs-curriculum-teacher-guide/

  • เอกสารประกอบการประชุมปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรหลักเพื่อสร้างความเข้าใจ เรื่อง การนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไปสู่การปฏิบัติ
  • ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 14 - 16 มีนาคม 2561 ณ โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช พัทยา จังหวัดชลบุรี
  • ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 20 – 22 มีนาคม 2561 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่
  • ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 25 – 28 มีนาคม 2561 ณ โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
  • บรรยายพิเศษ

-  เตรียมเส้นทางอาชีพ ม.ต้น โดย รองเลขาธิการ กพฐ. (นางสุกัญญา งามบรรจง)

-  Where do we go from here? โดย ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สพฐ. (ดร. เบญจลักษณ์  น้ำฟ้า)

  • เอกสารประกอบการบรรยาย (สพฐ.)

- การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา โดย ดร.รัตนา  แสงบัวเผื่อน

- แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดย อ. พรพรรณ โชติพฤกษวัน

  • เอกสารประกอบการบรรยาย (สสวท.)

การนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สู่การปฏิบัติ

- ประถมศึกษา – มัธยมศึกษาตอนต้น (สพป.)

- มัธยมศึกษาตอนต้น – มัธยมศึกษาตอนปลาย (สพม.)

  • เอกสารประกอบการประชุม

- การเทียบเคียงตัวชี้วัดและผลการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์

- การเทียบเคียงตัวชี้วัดและผลการเรียนรู้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์

- การเปรียบเทียบมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระภูมิศาสตร์




ขอบคุณที่มา   ::   http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=75

.

24 พฤศจิกายน 2563

 กรณีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน



กรณีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ด.ญ.วริศรา สังข์จันทึก (1)

YouTube Video

https://youtu.be/TjAbJZw4s_4 - แชร์ประสบการณ์การรับประทานตำรับยาหลินจือ กับ กรณีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ด.ญ.วริศรา สังข์จันทึก - ประโยชน์สำคัญของการรับประทานผลิตภัณฑ์กาโนร่วมกับตำรับยาหลินจือกาโน





กรณีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ด.ญ.วริศรา สังข์จันทึก (2)







#สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 🙏🙏🙏
โทร
☎️   :: 082-236-4928

Line ID :: pla-prapasara





สั่งวันนี้มีโปรโมชั่น พิเศษ‼️ #ทักมาเลย
http://line.me/ti/p/~pla-prapasara



🚒🚒 กรุงเทพและปริมณฑล 1-2 วันรับของ ต่างจังหวัด 2-3 วันค่ะ 🚒🚒

🌸 รับสมัครผู้นำต้นสายทั่วประเทศ / ตัวแทนจำหน่ายที่นี่ค่ะ 🌸

🌸 สมัครสมาชิกกับทีมงานเรา ## รับทำเว็บไซต์สำหรับการขายให้ฟรี !!! 🌸







#กาโนรักคุณปรึกษาปัญหาสุขภาพ ฟรี !!!   #วิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยกาโน 

#กรณีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน










กรณีป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านมและมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกกับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน

กรณีป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านมและมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกกับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน


YouTube Video



กรณี ป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านม และมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก วันที่ 1-2 วันแรก https://youtu.be/F5DGW9C0GE0


เพิ่มคำบรรยายภาพ


YouTube Video


กรณี ป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านม และมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก วันที่ 3-6 https://youtu.be/9TmCS-0mPOA




YouTube Video



กรณี ป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านม และมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก วันที่ 7-12 https://youtu.be/lLO12ZhrUP8




YouTube Video


กรณี ป่วยมีก้อนซีสต์ที่เต้านม และมีปัญหาเกี่ยวกับมดลูก วันที่ 13 เป็นต้นไป https://youtu.be/3ShDlSb-m4s







#สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 🙏🙏🙏
โทร
☎️   :: 082-236-4928

Line ID :: pla-prapasara





สั่งวันนี้มีโปรโมชั่น พิเศษ‼️ #ทักมาเลย
http://line.me/ti/p/~pla-prapasara



🚒🚒 กรุงเทพและปริมณฑล 1-2 วันรับของ ต่างจังหวัด 2-3 วันค่ะ 🚒🚒

🌸 รับสมัครผู้นำต้นสายทั่วประเทศ / ตัวแทนจำหน่ายที่นี่ค่ะ 🌸

🌸 สมัครสมาชิกกับทีมงานเรา ## รับทำเว็บไซต์สำหรับการขายให้ฟรี !!! 🌸







#กาโนรักคุณปรึกษาปัญหาสุขภาพ ฟรี !!!   #วิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยกาโน 

#ช็อกโกแลตซีสต์กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน













 




11 พฤศจิกายน 2563

ช็อกโกแลตซีสต์กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน

ช็อกโกแลตซีสต์กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน



YouTube Video

กรณีศึกษา : ผู้ป่วยช็อกโกแลตซีสต์












YouTube Video

ช็อกโกแลตซีสต์ โรคที่สาวๆทุกคน มีสิทธิ์เป็น !





#สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 🙏🙏🙏
โทร
☎️   :: 082-236-4928

Line ID :: pla-prapasara





สั่งวันนี้มีโปรโมชั่น พิเศษ‼️ #ทักมาเลย
http://line.me/ti/p/~pla-prapasara



🚒🚒 กรุงเทพและปริมณฑล 1-2 วันรับของ ต่างจังหวัด 2-3 วันค่ะ 🚒🚒

🌸 รับสมัครผู้นำต้นสายทั่วประเทศ / ตัวแทนจำหน่ายที่นี่ค่ะ 🌸

🌸 สมัครสมาชิกกับทีมงานเรา ## รับทำเว็บไซต์สำหรับการขายให้ฟรี !!! 🌸







#กาโนรักคุณปรึกษาปัญหาสุขภาพ ฟรี !!!   #วิธีการรักษาผู้ป่วยด้วยกาโน 

#ช็อกโกแลตซีสต์กับการรักษาด้วยวิธีการของกาโน









ช็อกโกแลตซีสต์



ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) คือ ถุงน้ำในรังไข่ประเภทหนึ่งที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เมื่อถึงเวลาเป็นประจำเดือนจะทำให้มีเลือดสะสมและตกค้างก่อตัวเป็นซีสต์ โดยมีของเหลวลักษณะเหนียวข้นคล้ายช็อคโกแลตอยู่ภายใน ทางการแพทย์จึงเรียกอีกชื่อว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต และยังจัดเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (Endometriosis) เช่นกัน

ช็อกโกแลตซีสต์

อาการของช็อกโกแลตซีสต์

ช็อกโกแลตซีสต์ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและไม่ค่อยเป็นอันตราย ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการมากน้อยไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ไม่มีความผิดปกติใด ๆ แสดงอาการเพียงเล็กน้อย หรือรุนแรง ซึ่งอาการที่พบบ่อย เช่น

  • ปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง โดยจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงมีรอบเดือน  
  • ปวดประจำเดือนมาก ซึ่งมักจะเริ่มปวดก่อนประจำเดือนมา 2-3 วันไปจนหมดรอบเดือน ซึ่งจะต่างกับการปวดประจำเดือนปกติที่มักปวดในช่วงวันแรก ๆ และไม่รุนแรง
  • มีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด หรืออาการอื่น ๆ คล้ายกับช่วงมีประจำเดือน   
  • รู้สึกเจ็บและปวดบริเวณช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาการอาจคงอยู่หลังมีเพศสัมพันธ์ไปอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  • มีบุตรยาก
  • บางรายอาจมีอาการปวดขณะถ่ายอุจจาระหรือปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานมากขณะปัสสาวะ
สาเหตุของช็อกโกแลตซีสต์

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจาก ประจำเดือนไหลย้อนกลับไปในรังไข่ (Retrograde Menstruation) เพราะในสภาวะปกติของแต่ละเดือนจะมีการสร้างเยื่อบุขึ้นในมดลูก เพื่อรองรับไข่ที่จะมาฝังตัว แต่เมื่อไม่มีการฝังตัวก็จะทำให้เยื่อบุที่ถูกสร้างขึ้นหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนทางช่องคลอด แต่ในกรณีของการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ การบีบตัวของมดลูกบางจังหวะทำให้ประจำเดือนไหลย้อนไปทางปลายท่อนำไข่แทนที่จะไหลลงข้างล่างทางช่องคลอดเพียงทางเดียว จึงทำให้เซลล์เยื่อบุมดลูกไปฝังตัวและเจริญเติบโตในรังไข่จนเกิดเป็นถุงน้ำขึ้น เมื่อเป็นประจำเดือน ถุงน้ำดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงเหมือนเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัว ถุงน้ำจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และมีลักษณะเป็นเลือดเก่า ๆ อยู่ภายใน

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายข้อสันนิษฐานที่พยายามอธิบายสาเหตุการเกิดของช็อกโกแลตซีสต์ เช่น เยื่อบุช่องท้องเกิดการระคายเคือง (Transformation Of Peritoneal Cells) จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือระบบภูมิคุ้มกัน การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ต้นกำเนิดตัวอ่อน (Embryonic Cell Transformation) จากอิทธิพลของฮอร์โมน แผลหลังผ่าตัด (Surgical Scar Implantation) หรือ ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System Disorder)

ทั้งนี้ ยังพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่พัฒนาให้เกิดช็อกโกแลตซีสต์ขึ้นในบุคคลบางกลุ่มได้ง่าย โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 25-40 ปี มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคนี้ ไม่เคยมีบุตรมาก่อน หรือมีรอบเดือนผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมามากและมีระยะเวลานานกว่าปกติ รอบเดือนสั้น เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย

การวินิจฉัยช็อกโกแลตซีสต์

แพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยและบุคคลในครอบครัวที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับตัวโรค อาการของผู้ป่วยตั้งแต่ปวดในลักษณะไหน บริเวณที่มีอาการปวด เกิดขึ้นเมื่อไร หรือประวัติการปวดประจำเดือนและการมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นจะมีการตรวจสุขภาพทั่วไป ซึ่งการตรวจหลัก ๆ ที่ใช้ประกอบการวินิจฉัยควบคู่กับข้อมูลที่สอบถามผู้ป่วยจะแบ่งออกเป็น

  • การตรวจภายใน เป็นการตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะบริเวณอุ้งเชิงกราน อวัยวะเพศ และทวารหนัก ทำให้แพทย์สามารถตรวจดูว่ามีเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือไม่ หรือมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีก้อนบริเวณมดลูกและรังไข่เกิดขึ้นไม่ แต่ในกรณีที่ถุงน้ำมีขนาดเล็กมากก็อาจมีโอกาสตรวจไม่พบได้เช่นกัน
  • การตรวจอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจวิเคราะห์ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านผนังหน้าท้องเข้าไปภายในช่องท้องหรือสอดอุปกรณ์สำหรับการตรวจอัลตราซาวด์เข้าไปทางช่องคลอด เพื่อตรวจดูอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน ซึ่งสามารถตรวจพบก้อนขนาดเล็ก แต่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างละเอียด เช่น การเกิดพังผืด
  • การส่องกล้อง (Laparoscopic) เมื่อการตรวจในข้างต้นให้ข้อมูลไม่เพียงที่จะสรุป แพทย์อาจมีการส่องกล้องตรวจดูความผิดปกติภายในช่องท้อง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยวินิจฉัยได้แม่นยำมากที่สุด โดยเริ่มจากการให้ยาชาเฉพาะที่ จากนั้นจึงเปิดแผลขนาดเล็กใต้สะดือและสอดกล้องพิเศษลงไปตรวจดูภายใน ทำให้แพทย์มองเห็นความผิดปกติได้ชัดเจน สามารถระบุตำแหน่งและขนาดของถุงน้ำที่ตรวจพบ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
การรักษาช็อกโกแลตซีสต์

แนวทางในการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ยาและการผ่าตัด โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความประสงค์ในการมีบุตรของผู้ป่วย

การรักษาโดยการใช้ยา จะแบ่งตัวยาออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่

  • ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) หรือเรียกแบบย่อว่า ยาเอ็นเสด (NSAIDs) เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหรือปวดระหว่างมีรอบเดือนที่ไม่รุนแรง ตัวอย่างยาที่นิยมใช้ เช่น ยาไอบรูโปรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen)
  • ยาฮอร์โมนเพศหญิง (Hormone Therapy) ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการปวดมากและไม่ได้วางแผนตั้งครรภ์ในระยะอันใกล้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาฮอร์โมนเพศหญิง เพราะการเพิ่มหรือลดของฮอร์โมนในช่วงรอบเดือนอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเยื่อบุมดลูก โดยตัวยาจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์ให้ช้าลงและป้องกันการฝังตัวใหม่ของเซลล์เยื่อบุมดลูก ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาเป็นระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือนตามแต่ละบุคคล แต่ในบางรายอาจพบอาการได้ใหม่หลังหยุดใช้ยา ตัวอย่างยาที่ใช้บ่อย เช่น ยาคุมกำเนิดรูปแบบต่าง ๆ ยากลุ่มฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน รีลิสซิ่ง (Gonadotropin Releasing Hormone: GnRH) ยาฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progestin Therapy) ยาดานาซอล (Danazol)
การผ่าตัด เมื่อการรักษาด้วยยาไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น ผู้ป่วยยังคงมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากถุงน้ำมีขนาดใหญ่จนอาจกระทบกับอวัยวะอื่น แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัด เพื่อนำเซลล์เยื่อบุออกจากรังไข่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องมากกว่าการผ่าตัดทางหน้าท้อง เนื่องจากรอยแผลมีขนาดเล็ก ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย และยังสามารถมีบุตรได้ในอนาคต ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาให้ผ่าตัดมดลูกหรือรังไข่ออกทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะหมดระดูหรือหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติ และต้องมีการใช้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy) เข้ามาช่วยเสริม

ภาวะแทรกซ้อนของช็อกโกแลตซีสต์

ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้องเรื้อรัง บางรายอาจเกิดถุงน้ำแตกหรือฉีกขาด จึงต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน รวมไปถึงมีบุตรยาก เนื่องจากถุงน้ำอาจไปขวางไข่ไม่ให้ไปฝังตัวที่โพรงมดลูกได้อย่างสมบูรณ์

การป้องกันช็อกโกแลตซีสต์

ช็อกโกแลตซีสต์ไม่สามารป้องกันได้ เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าการใช้ยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน เช่น ห่วงคุมกำเนิด ยาเม็ดหรือแผ่นแปะคุมกำเนิด อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อพบความผิดปกติใด ๆ ควรไปพบแพทย์



ที่มา   ::   https://www.pobpad.com/