tag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post2021327301314179491..comments2023-11-28T15:37:13.009+07:00Comments on เว็บไซต์การเรียนรู้ ประภัสรา โคตะขุน: ประเทศออสเตรเลียPrapasara.Comhttp://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comBlogger7125tag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-29414213244368613302011-01-16T00:25:43.179+07:002011-01-16T00:25:43.179+07:00Tourist ใช้แบบฟอร์ม 48 R THA
1. จ.ดหมายรับรองการ...Tourist ใช้แบบฟอร์ม 48 R THA <br /><br />1. จ.ดหมายรับรองการทำงาน <br />2. สำเนาบัญชีเงินฝากของผู้เดินทางย้อนหลัง 3 เดือน <br />3. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน <br />4. รูปถ่าย 2 นิ้วสี 2 รูป พื้นหลังเป็นสีอ่อนหรือสีขาว <br />5. พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนและมีหน้าว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี) <br />6. ฟอร์มวีซ่ากรอกข้อมูลครบถ้วนและเซ็นต์ชื่อ 1 ชุด ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.immi.gov.au ดูหัวข้อ Visiting Australia แล้วไปตาม stepที่ Visit For :, Holiday , Applying for an ETA (Visitor) or A Tourist Visa <br />,Form 48R THA Application to Visit Australia <br />7. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 2300 บาท+ค่าตรวจเช็คเอกสารที่จ้างคนนอกมาทำ 428 บาท(รวมอยู่ในใบเสร็จสถานฑูต) และค่าแคชเชียร์เช็ค 35 บาทต่อคนรวมเป็น 2,763 บาท (ยกเว้นยื่นเป็น FAMILY VISA ซึ่งต้องใช้นามสกุลเดียวกันสามารถกรอกแบบฟอร์มเดียวกันได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าแค่คนเดียว แต่ต้องเสียค่าตรวเช็คเอกสารแยกแต่ละคน เช่น สามีเดินทางไปประชุมและมีภรรยาและลูกเดินทาง ไปด้วยให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มชุดเดียวกันแต่ลูกต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี จะเสียค่าธรรมเนียมดังนี้ ค่าวีซ่า 2,300บาท , ค่าจ้างตรวจเอกสาร คนละ 428 บาท <br />ค่าแค็ชเชียน์เช็ค 25 บาท รวมเป็น 3,609 บาท ) <br />8. เริ่ม 01 ตุลาคม48 ใช้เวลา 5-7 วันทำการ (สำหรับคนไทย) ใช้เวลา 10-14 วันทำการ (สำหรับชาวต่างชาติ) ขึ้นอยู่กับสถานฑูตจะเป็นผู้กำหนดวันรับ หากต้องการเร็วกว่านี้ ทางเอเม็กซ์ อาจจะช่วยขอให้ในขณะยื่น แต่รับรองไม่ได้ว่าสถานฑูต <br />จะอนุญาติหรือไม่ <br />9. ใบจองตั๋วเครื่องบิน <br /><br /><br />Transit Visa <br /><br />1. ใบจองตั๋วเครื่องบินหรือสำเนาตั๋วเครื่องบิน <br />2. รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 1 รูป <br />3. ฟอร์มวีซ่า ใช้ฟอร์ม 876 <br />4. พาสปอร์ตตัวจริง <br />5. ค่าธรรมเนียม 428 บาท <br />6. ใช้เวลาทำการ 5 วัน <br />Transfer Visa เสียค่าธรรมเนียม 428 บาท ใช้เวลาทำการ 5 วัน <br /><br />*** คน Hungary , Austria , UK ไม่ต้องทำวีซ่าระยะเวลาขึ้นอยู่กับ Immigration ที่ประเทศออสเตรเลีย *** <br /><br />*** คนอินเดีย ที่มี Work Permit ในไทยใช้เวลาในการยื่น 2-3 สัปดาห์ *** <br /><br /><br /><br />ผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตของประเทศต่อไปนี้สามารถทำอิเล็คทอนิควีซ่าได้ <br /><br />1. Andorra 12. Iceland 23. Portugal <br />2. Austria 13. Ireland 24. San Marino <br />3. Belgium 14. Italy 25. Singapore <br />4. Brunei 15. Japan 26. South Korea <br />5. Canada 16. Liechtenstein 27. Spain <br />6. Denmark 17. Luxembourg 28. Sweden <br />7. Finland 18. Malaysia 29. Switzerland <br />8. France 19. Malta 30. United Kingdom <br />9. Germany 20. Monaco 31. United States of America <br />10. Greece 21. Netherlands 32. Vatican City <br />11. Hong Kong 22. Norway <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-60211291680330638392011-01-16T00:24:26.192+07:002011-01-16T00:24:26.192+07:00ระเบียบการและเอกสารยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ ออสเตรเลี...ระเบียบการและเอกสารยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ ออสเตรเลีย <br /><br /><br />1. หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน <br />2. รูปถ่าย 2 - 2.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป <br />3. การเงิน ( สำเนาสมุดเงินฝาก ออมทรัพย์ หรือ ประจำ ตั้งแต่หน้าแรก ถึงหน้าปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ) <br />4. สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน, <br />5. สำเนาทะเบียนสมรส ( กรณีที่แต่งงานแล้วต้องใช้ ) <br />6. ใบรับรองการทำงานจากบริษัทที่ท่านทำงานอยู่ ( ภาษาอังกฤษ ) สำเนาทะเบียนการค้าหรือสำเนาใบพาณิชย์ (กรณีเป็นเจ้าของ) <br />7. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ และ นามสกุล ( ถ้ามี ) <br />8. สำเนาสูติบัตร ( สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ) <br />9. เด็ก ขอหนังสือรับรองจากโรงเรียน ใช้ตัวจริง ( เป็นภาษาอังกฤษ ) <br />10. เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีจะต้องมีใบอนุญาติจากผู้ปกครองในกรณีเดินทางเอง ( บิดาหรือมารดา )อีกกรณี หากเด็กเดินทาง <br />ไปกับบิดาจะต้องมีใบรับรองจากมารดา หรือหากเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีใบรับรองจากบิดา <br />11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 70 ปี จะต้องมีใบรับรองแพทย์ และใบประกันสุขภาพ ( จากบริษัทประกันภัย ) <br /><br />หมายเหตุ - ในการกรอกใบสมัครยื่นวีซ่า ทางสถานฑูตต้องการให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน พร้อมที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อลูกค้าได้สะดวก <br /><br />เวลาทำการของสถานฑูต <br /><br />8.00 น. – 12.00 น. เปิดรับยื่นเอกสารขอวีซ่า และ รับเล่มพาสปอร์ต <br /><br />สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 287 – 2680 ( ตั้งแต่เวลา 15.00 น. – 16.00 น. ) <br /><br />ข้อมูลด้านล่างนี้ ปรับปรุงเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2549 <br /><br />EMBASSY OF AUSTRALIA <br />37 SOUTH SATHORN RD.,BANGKOK 10120 <br />Tel : 0 2344 6400 <br /><br />www.immi.gov.au <br /><br />เวลายื่น 09:00-15:00 น./เวลารับ 15:00-16:00 น. <br /><br />*** ระยะเวลาในการยื่นขอวีซ่าไม่รวมวันที่รับเอกสาร*** <br />*** เอกสาร และเวลาที่ใช้ในการยื่นวีซ่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถานทูต *** <br /><br />เอกสารยื่น VISA AUSTRALIA <br /><br /><br />Business ใช้แบบฟอร์ม 456 <br /><br />1. จ.ดหมายรับรองการทำงาน <br />2. จดหมายเชิญจากบริษัทในประเทศออสเตรเลีย <br />3. สำเนาStatement บริษัทย้อนหลัง 3 เดือน <br />4. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน <br />5. รูปถ่าย 2 นิ้วสี 2 รูป พื้นหลังเป็นสีอ่อนหรือสีขาว <br />6. พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนและมีหน้าว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมพาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี) <br />7. ฟอร์มวีซ่ากรอกข้อมูลครบถ้วนและเซ็นต์ชื่อ 1 ชุด ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ <br />www.immi.gov.au <br /><br />ดูหัวข้อ Visiting Australia แล้วไปตาม stepที่ Visit For :, Business, Business Visa Short stay Form 456 <br />8. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 2200 บาท(เริ่ม 1 ก.ค.49)+ค่าตรวจเช็คเอกสารที่จ้างคนนอกมาทำ 428 บาท(รวมอยู่ในใบเสร็จสถานฑูต) <br />และค่าแคชเชียร์เช็ค 35 บาทต่อคนรวมเป็น 2,663 บาท (ยกเว้นยื่นเป็น FAMILY VISA ซึ่งต้องใช้นามสกุลเดียวกันสามารถกรอกแบบฟอร์มเดียวกันได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าแค่คนเดียว แต่ต้องเสียค่าตรวเช็คเอกสารแยกแต่ละคน เช่น สามีเดินทางไปประชุมและมีภรรยาและลูกเดินทาง ไปด้วยให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มชุดเดียวกันแต่ลูกต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี จะเสียค่าธรรมเนียมดังนี้ ค่าวีซ่า 2,200บาท , ค่าจ้างตรวจเอกสาร คนละ 428 บาท ค่าแค็ชเชียน์เช็ค 35 บาท รวมเป็น 3,519 บาท ) <br />9. เริ่ม 01 ตุลาคม48 ใช้เวลา 5-7 วันทำการ (สำหรับคนไทย) ใช้เวลา 10-14 วันทำการ (สำหรับชาวต่างชาติ) ขึ้นอยู่กับสถานฑูตจะเป็นผู้กำหนดวันรับ หากต้องการเร็วกว่านี้ ทางเอเม็กซ์ อาจจะช่วยขอให้ในขณะยื่น แต่รับรองไม่ได้ว่าสถานฑูต <br />จะอนุญาติหรือไม่ <br />10. ใบจองตั๋วเครื่องบิน <br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-89447208416107382342011-01-15T23:35:11.731+07:002011-01-15T23:35:11.731+07:00ทัณฑนิคม
ทัณฑนิคม (อังกฤษ: penal colony) หมายถึ...ทัณฑนิคม <br /><br /><br />ทัณฑนิคม (อังกฤษ: penal colony) หมายถึงถิ่นฐานซึ่งใช้สำหรับเนรเทศนักโทษและแยกพวกเขาจากประชากรส่วนใหญ่โดยการส่งตัวนักโทษเหล่านี้ไปยังสถานที่ที่อยฦห่างไกล ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเกาะหรือดินแดนอาณานิคมที่อยู่ไกลออกไป คำดังกล่าวมักหมายถึงประชาคมนักโทษซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของนักโทษหรือผู้ว่าการซึ่งมีอำนาจเด็ดขาด ในทางประวัติศาสตร์ ทัณฑนิคมมักจะเป็นสถานที่ซึ่งมีการใช้แรงงานนักโทษในดินแดนของรัฐ (หรือส่วนใหญ่คืออาณานิคม) ซึ่งเศรษฐกิจอย่างไม่พัฒนา และมีขนาดใหญ่กว่า "ฟาร์มในคุก" อย่างมาก ในทางปฏิบัติแล้ว ทัณฑนิคมมีความเหนือกว่าประชาคมทาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จักรวรรดิอังกฤษ จักรวรรดิฝรั่งเศส และจักรวรรดิอาณานิคมอื่น ๆ มักจะใช้ทวีปอเมริกาเหนือ และส่วนอื่น ๆ ของโลกเป็นทัณฑนิยมสำหรับโทษที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งอยู่ในฐานะความจำยอม การผูกมัดหรือการจัดการที่คล้ายคลึงกัน <br /><br /><br />ลักษณะโดยทั่วไป <br /><br /><br />การปกครองภายในนิคมมักจะเต็มไปด้วยความโหดร้าย และบางครั้งรวมไปถึงการลงโทษทางกายอย่างรุนแรง ดังนั้น ถึงแม้ว่าบรรดานักโทษจะไม่ได้รับการตัดสินให้ถูกประหารชีวิต แต่ก็มีจำนวนมากที่เสียชีวิตจากความอดอยาก โรคระบาด ความละเลยทางการแพทย์ การใช้แรงงานหนัก หรือในระหว่างพยายามหลบหนี <br /><br />ในระบบทัณฑนิคม นักโทษจะถูกส่งตัวออกไปไกล ๆ เพื่อป้องกันความพยายามในการหลบหนีและเพื่อตัดกำลังใจในการกลับมายังบ้านเกิดของตนหลังจากโทษหมดลง ทัณฑนิคมมักจะตั้งอยู่ในพื้นที่อันห่างไกลซึ่งไม่ได้การต้อนรับ ที่นั่น พวกเขาจะต้องใช้แรงงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อประเทศแม่ก่อนที่แรงงานจะอพยพเข้ามาในพื้นที่ หรือนักโทษอาจต้องใช้แรงงานต่อไปหลังจากนั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาก อันที่จริงแล้ว บางคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจน) มักจะถูกตัดสินให้ต้องกลายมาเป็นแรงงานราคาถูกจำนวนมาก <br /><br /><br /><br />จักรวรรดิอังกฤษ <br /><br />อังกฤษได้ใช้ทวีปอเมริกาเหนือเป็นทัณฑนิคมผ่านทางระบบของคนงานขึ้นบัญชี ผู้ต้องโทษจะถูกส่งตัวโดนพ่อค้าและขายทอดตลาดไปยังเจ้าของที่ดินเมื่อไปถึงอาณานิคม มีการประมาณกันว่ามีผู้ต้องโทษชาวอังกฤษกว่า 50,000 คนถูกส่งตัวไปยังอาณานิคมอเมริกา ซึ่งอาจคิดเป็นหนึ่งในสี่ของจำนวนผู้อพยพออกนอกอังกฤษระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 เมื่ออังกฤษไม่สามารถส่งนักโทษไปยังทวีปอเมริกาเหนือได้อีกหลังจากการปฏิวัติอเมริกาในคริสต์ทศวรรษ 1780 อังกฤษจึงได้หันไปเริ่มใช้ออสเตรเลียเป็นทัณฑนิคมแทน ซึ่งรวมไปถึงเกาะนอร์ฟอล์ก แทสมาเนีย และนิวเซาท์เวลส์ หากปราศจากการจัดสรรของแรงงานผู้ต้องโทษไปยังเกษตรกร ผู้ครอบครองที่ดินเพาะปลูก และโครงการของรัฐบาล อย่างเช่น การสร้างถนน ไปเสียแล้ว การยึดครองออสเตรเลียเป็นอาณานิคมก็คงจะไม่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากการสิ้นเปลืองไปกับแรงงานซึ่งมิใช่ผู้ต้องโทษอันเกิดจากนักขุดทองจำนวนมากซึ่งเกิดขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1800 <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-43767501614475991702011-01-15T23:34:50.227+07:002011-01-15T23:34:50.227+07:00รัฐนิวเซาท์เวลส์
นิวเซาท์เวลส์ (อังกฤษ: New Sou...รัฐนิวเซาท์เวลส์ <br /><br /><br />นิวเซาท์เวลส์ (อังกฤษ: New South Wales) เป็นหนึ่งในหกรัฐของเครือรัฐออสเตรเลีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ นิวเซาท์เวลส์เป็นอาณานิคมบริเตนแห่งแรกในออสเตรเลีย แรกเริ่มกินดินแดนกว้างขวางกว่าปัจจุบัน ก่อนที่จะแยกไปเป็นรัฐอื่นๆภายหลัง เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐคือซิดนีย์ <br /><br /><br /><br />รัฐควีนส์แลนด์ <br /><br />รัฐควีนส์แลนด์ (อังกฤษ: Queensland) เป็นรัฐในประเทศออสเตรเลียที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแผ่นดินทวีป ติดกับนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ทางตะวันตก ติดกับรัฐเซาท์ออสเตรเลียทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางทิศใต้ <br /><br />ทางตะวันตกของรัฐควีนส์แลนด์ เป็นทะเลปะการังและมหาสมุทรแปซิฟิก รัฐควีนส์แลนด์มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและเป็นรัฐที่มีประชากรมาที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย <br /><br />พื้นที่แต่เดิมมีคนพื้นเมืองออสเตรเลียและชาวเกาะทอร์เรสสเตรทอาศัยอยู่ ที่มาอยู่ราว 40,000 ถึง 65,000 ปีก่อน ต่อมาเป็นอาณานิคมของอังกฤษและแยกจากนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1859 ถือว่าเป็นวันเฉลิมฉลองประจำปีของรัฐ เรียกว่าวันควีนส์แลนด์ <br /><br /><br /><br /><br />รัฐเซาท์ออสเตรเลีย <br /><br />รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (อังกฤษ: South Australia) เป็นรัฐของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่แห้งแล้งโดยส่วนใหญ่ของทวีป มีพื้นที่ 983,482 ตร.กม. (379,725 ตร.ไมล์) ถือว่าเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ใน 6 รัฐและ 2 ดินแดน ของประเทศ <br /><br />รัฐมีพื้นที่ติดกับรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทางตะวันตก ติดกับนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ทางทิศเหนือ ติดกับรัฐควีนส์แลนด์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียทางตะวันออก และทางทิศใต้ติดกับอ่าวเกรตออสเตรเลียไบท์และมหาสมุทรใต้ กับประชากรราว 1.6 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า 10% ของประชากรในออสเตรเลีย เป็นรัฐหรือดินแดนที่มีประชากรอันดับ 5 ของออสเตรเลีย ประชากรส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองแอดิเลด เมืองหลวงของรัฐ ที่ยังคงเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้และแม่น้ำเมอร์เรย์ <br /><br /><br /><br /><br />รัฐแทสเมเนีย <br /><br />เกาะแทสเมเนีย เป็นรัฐหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ตั้งอยู่ห่างออกไปราว 240 กม. (150 ไมล์) ทางตอนใต้ของส่วนตะวันออกของทวีปออสเตรเลีย โดยถูกกั้นด้วยช่องแคบบาสส์ แทสเมเนียมีประชากรราว 456,652 คน (จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2001) และมีพื้นที่ 68,332 กม.² (26,383 ตารางไมล์) จากการสำรวจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2003 พบว่าแทสเมเนียมีประชากรที่อยู่อาศัยจริงราว 476,199 คน ชื่อเล่นของแทสเมเนียคือ เกาะแอปเปิล เนื่องจากมีการปลูกแอปเปิลมาก และรูปร่างของเกาะที่เหมือนผลแอปเปิล <br /><br />เมืองหลวงและเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะคือเมืองโฮบาร์ต ซึ่งรวมถึงชุมชนโฮบาร์ต เกลนอร์ชี และ แคลเรนซ์ เมืองใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากอีกแห่งได้แก่เมืองลอนเซสตัน ทางตอนเหนือ และเดวอนพอร์ต กับเบอร์นีทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ <br /><br />เกาะแมกควารี ซึ่งเป็นเกาะเล็กของทวีปแอนตาร์กติก ก็อยู่ในความปกครองของรัฐแทสเมเนีย แทสเมเนียยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของธรรมชาติที่งดงาม มีสัตว์หายากที่พบได้บนเกาะนี้ที่เดียว ได้แก่แทสเมเนียนเดวิล <br /><br /><br /><br /><br />รัฐวิกตอเรีย <br /><br />รัฐวิกตอเรีย ตั้งอยู่ทางใต้ของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ เป็นรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของออสเตรเลีย ขนาด 227,600 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุด มีประชากรอาศัยอยู่ในรัฐนี้คิดเป็นร้อยละ 26 ของชาวออสเตรเลียทั้งหมด <br /><br />นครหลวงเมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐวิกตอเรีย และมีประชากรขอรัฐอาศัยอยู่มากที่สุดถึง 70% เป็นศูนย์กลางที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปวัฒนธรรม การเงิน และการคมนาคมเนื่องจากมีท่าอากาศยานนานาชาติ ท่าเรือโดยสารและขนส่ง และทางรถไฟเชื่อมระหว่างรัฐใกล้เคียง <br /><br /><br /><br /><br />รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย <br /><br />รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (อังกฤษ: Western Australia) เป็นรัฐในประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และเป็นเขตการปกครองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีประชากร 2.1 ล้านคน (10% ของประเทศ) มี 85% ของคนที่อาศัยทางมุมใต้-ตะวันตกของรัฐ มีเมืองหลวงคือ เพิร์ท <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-25475395823270041622011-01-15T23:33:31.142+07:002011-01-15T23:33:31.142+07:00การใช้ชีวิตในออสเตรเลีย
คำนำ
ออสเตรเลียมีขนาด...การใช้ชีวิตในออสเตรเลีย <br /><br /><br />คำนำ <br /><br />ออสเตรเลียมีขนาดใหญ่และมีความหลากหลายมากเกินกว่าที่สัญลักษณ์ใดสัญลักษณ์หนึ่ง จะสามารถใช้แสดงเอกลักษณ์ของประเทศได้ สถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจของโรงอุปรากรซิดนีย์โอเปร่าเฮ้าส์ (Sydney Opera House) แสงประกายของก้อนหินอูลูรู (ที่ Ayers Rock) ยามพลบค่ำ คลื่นที่ม้วนอยู่เหนือปะการังสีสวย – สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของประสบการณ์ที่ท่านจะได้สัมผัสเมื่อท่านมาถึงแผ่นดินของประเทศทวีปอันน่าทึ่งแห่งนี้ <br /><br />ความงดงามทางธรรมชาติของออสเตรเลียเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดอย่างหนึ่ง ภูมิทัศน์ที่หลากหลายตั้งแต่ขอบฟ้าสีทองที่มีเส้นสายตาไม่สิ้นสุด ไปจนถึงป่าฝนเขตร้อนและชายหาดทางใต้ที่เยือกเย็น ในเมืองใหญ่ ออสเตรเลียมีการผสมผสานกันระหว่างความปรารถนาในศิลปะและรสชาดอาหาร พร้อมด้วยความรักในกีฬาและชีวิตกลางแจ้ง ผู้ที่มาเยือนจะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่อสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ขนาดอันมโหฬาร และประชากรที่หลากหลาย คือเอกลักษณ์ที่แท้จริงของออสเตรเลีย <br /><br />มีหลายสิ่งของเกาะแสนไกลแห่งนี้ที่แตกต่างออกไป ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ดูคุ้นเคยก็ตาม ท่านอาจจะเคยเดินทางไปที่ห่างไกลมาหลายแห่งแล้ว แต่คงยังไม่เคยมาที่เอ้าท์แบคอันโดดเดี่ยวและอ้างว้างที่สุดเพียงนี้ ที่ที่มีหลุมเกลือเป็นประกายและหอหินทรายตั้งตระหง่าน ท่านอาจจะเคยพบเห็นสัตว์ป่ามาแล้ว แต่ท่านเคยขี่อูฐผ่านต้นโอ๊คทะเลทรายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือเคยตั้งแคมป์ใกล้กับแหล่งทางผ่านของสุนัขแทสเมเนียนเดวิลหรือไม่? บางทีท่านอาจจะเคยรับประทานอาหารทะเลอร่อยมาก่อน แต่ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติของปลาบารามันดิ หรือปลากะพง และกุ้งมอตั้นเบย์บัคที่แปลกอร่อยไปอีกแบบหนึ่ง <br /><br />จากทางเดินเล็กๆ ในป่าฝนจนถึงพิพิธภัณฑ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ สีสันของเมืองหลากวัฒนธรรมไปจนถึงความหลงใหลในเกมส์กีฬา ทำให้ออสเตรเลียเป็นสถานที่ที่พิเศษและมีเอกลักษณ์ของตน <br /><br /><br />ผู้คนที่นี่ <br /><br />ประชากรของออสเตรเลียในช่วงกลางปี ค.ศ. 2005 มีจำนวนเท่ากับ 20,265,000 คน มีความหนาแน่นประชากรต่ำที่สุดในโลก ด้วยอัตราเฉลี่ยเพียง 2.5 คนต่อตารางกิโลเมตร – ในเขตพื้นที่ห่างไกล ผู้คนจะอาศัยอยู่ห่างกันมากจนแทบไม่ได้ยินเสียงตะโกนเรียก ผู้คนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก โดยมีความหนาแน่นเบาบางกว่าที่แนวชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ ชาวออสเตรเลียใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงที่สุดในโลก โดยมีประชากร 23% เกิดในต่างประเทศ ชาวออสเตรเลียได้รับเอาอิทธิพลหลากหลายรูปแบบเข้ามาสู่วิถีชีวิตและรูปแบบการพักผ่อนของตน <br /><br /><br />สถานที่ต่างๆ <br /><br />รัฐและมณฑลต่างๆ ของออสเตรเลียต่างก็มีเอกลักษณ์ของตน ท่านจะสำรวจสถานที่ทีละแห่งหรือแวะเที่ยวทุกแห่งในคราวเดียวกันหลังจากที่เรียนจบแล้วก็ได้! ระยะทางทั้งหมด อาจหมายถึง 14,000 กิโลเมตร โดยที่ยังไม่นับรวมการแวะเที่ยวชายหาด ป่า ภูเขา เมืองตามชนบท และที่อื่นๆ... หรือแม้ว่าท่านจะเป็นคนไม่ชอบเดินทางไกลจากสถานที่ที่ท่านศึกษาอยู่ ท่านก็ยังพบว่ามีสิ่งที่ท่านให้รับความเพลิดเพลินใจได้มากมายเช่นกัน <br /><br /><br />ศักยภาพ <br /><br />ออสเตรเลียให้ข้อเสนอต่อประสบการณ์ที่เป็นแบบเฉพาะสำหรับนักศึกษา นอกจากระบบการศึกษาคุณภาพระดับโลกแล้ว โอกาสในการมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของที่นี่ ยังมีอีกมากมายไม่สิ้นสุด ไม่ว่าความสนใจของท่านจะอยู่ที่ศิลปะหรือการกีฬา การจัดปาร์ตี้หรือชมรมหนังสือ ชีวิตกลางแจ้งหรือร้านกาแฟสบายๆ ท่านจะพบว่ามีหลายทางเลือก ที่ท่านจะสามารถเข้าร่วมและหาความสนุกได้ทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้าท่านต้องการทั้งการศึกษา และการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า ออสเตรเลียคือสถานที่ที่เหมาะที่สุด <br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-24515489549240498392011-01-15T23:32:46.656+07:002011-01-15T23:32:46.656+07:00พืชและสัตว์ของเรา
สัญลักษณ์ที่กระโดดได้
จิงโจ้ท...พืชและสัตว์ของเรา <br /><br />สัญลักษณ์ที่กระโดดได้ <br />จิงโจ้ที่เป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่มีเฉพาะในประเทศออสเตรเลียและเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของเรา มีจิงโจ้ประมาณ 40 ล้านตัวในประเทศออสเตรเลีย นับเป็นจำนวนที่สูงกว่าเมื่อเริ่มมีผู้มาตั้งรกรากในประเทศ <br /><br />สัตว์ป่าที่มีลักษณะเฉพาะ <br />ทวีปออสเตรเลียมีสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งเกิดขึ้นเมื่อทวีปนี้แยกตัวออกจากมหาทวีปกอนด์วานาเมื่อกว่า 50 ล้านปีที่ผ่านมา ในปัจจุบัน ออสเตรเลียเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าจำนวนมากซึ่งไม่พบที่อื่นใดในโลก เรามีนกประมาณ 800 ชนิด ซึ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้มีเฉพาะในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น ทะเลของเรามีปลามากกว่า 4,000 ชนิด รวมถึงสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง พืช และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กนับหมื่น ๆ ชนิด ประมาณร้อยละ 80 ของสัตว์ทะเลทางตอนใต้ของออสเตรเลียไม่สามารถพบหาได้จากที่อื่นในโลก <br /><br />พืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ <br />นอกจากนี้ ประเทศออสเตรเลียยังมีต้นไม้อย่างน้อย 25,000 ชนิด เทียบกับ 17,500 ชนิดที่พบในทวีปยุโรป ทั้งยังรวมถึงต้นไม้โบราณที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น ต้นสนดึกดำบรรพ์วอลเลมีและต้นกลาสทรี ทั้งยังมีดอกไม้ป่าสีสันสดใส เฉพาะในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียก็มีมากกว่า 12,000 ชนิดแล้ว <br /><br /><br /><br />ประชากรและวัฒนธรรมของเรา <br /><br />แหล่งหลอมรวมเชื้อชาติที่แตกต่างกัน <br />นับตั้งแต่ปี 1945 เป็นต้นมา มีประชากรกว่าหกล้านคนจากทั่วโลกได้เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบัน กว่าร้อยละ 20 ของชาวออสเตรเลียเป็นผู้ที่เกิดในต่างแดน และกว่าร้อยละ 40 เป็นผู้ที่มีเชื้อสายผสม ในประเทศของเรา เราพูดทั้งหมด 226 ภาษา นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ภาษาที่ใช้กันมากที่สุดได้แก่ ภาษาอิตาเลียน กรีก จีนกวางตุ้ง และอาหรับ <br /><br />ประเทศใหญ่ ความคิดก็ใหญ่ <br />ชาวออสเตรเลียเป็นผู้คิดค้นกระดาษจดบันทึก (1902), รอกม้วนสำหรับช่วยชีวิต (1906), ยาแอสไพริน (1915), เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ (1926), ยาเพนนิซิลิน (1940) ราวตากผ้าปรับระดับ (1946), กระบอกฉีดยาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (1949), ถังไม้บรรจุไวน์ (1965), หูเทียมซึ่งมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (1978), ชักโครกที่กดน้ำได้สองระบบ (1980), เทคโนโลยีการป้องกันธนบัตรปลอม (1992), และคอนแท็กเลนส์ประเภทที่ใส่ได้นาน (1999) <br /><br />วัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก <br />ชาวอะบอริจินซึ่งอาศัยอยู่ในทวีปนี้มานานกว่า 50,000 ปี ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ชุมชนชาวอะบอริจินมีการพัฒนาในลักษณะเฉพาะก่อนหน้าที่ชาวยุโรปจะมาถึง พวกเขาประดิษฐ์บูมเมอแรงที่ใช้หลักอากาศพลศาสตร์และเครื่องพุ่งหอกที่เรียกว่า Woomera นอกจากนี้ ชาวอะบอริจินยังเป็นชุมชนแรกที่ลับปลายอันแหลมคมของเครื่องมือตัดที่ทำจากหิน และเป็นชนกลุ่มแรกที่ใช้เครื่องมือหินบดเมล็ดพืช ซึ่งเครื่องมือเครื่องใช้ประจำวันเหล่านี้มีการคิดค้นหลังจากนี้อีกนานมากโดยชนกลุ่มอื่น <br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3542528330773071254.post-1182079094281593232011-01-15T23:32:35.669+07:002011-01-15T23:32:35.669+07:00ข้อมูลประเทศออสเตรเลีย
ภูมิประเทศของเรา
ผืนแผ่...ข้อมูลประเทศออสเตรเลีย<br /><br /> ภูมิประเทศของเรา <br /><br />ผืนแผ่นดินสีน้ำตาลอันกว้างใหญ่ <br />ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลก โดยมีขนาดโดยประมาณเท่ากับมลรัฐที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ทั้ง 48 รัฐของสหรัฐอเมริกา และใหญ่กว่าทวีปยุโรปครึ่งนึง แต่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุดในโลก กล่าวคือ มีประชากรเพียงสองคนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร <br /><br />สวรรค์บนชายหาด <br />แนวชายฝั่งทะเลของออสเตรเลียเหยียดยาวเกือบ 50,000 กิโลเมตรซึ่งเชื่อมต่อโดยชายหาดกว่า 10,000 แห่ง มากกว่าประเทศใด ๆ ในโลก กว่าร้อยละ 85 ของชาวออสเตรเลียอาศัยอยู่ภายในรัศมี 50 กิโลเมตรจากชายฝั่ง จึงทำให้ชายฝั่งทะเลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของวิถีชีวิตสบาย ๆ ของเรา <br /><br />บ้านบนเกาะของเรา <br />ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศเดียวที่ปกครองทวีปทั้งทวีปรวมถึงเกาะต่าง ๆ ที่อยู่รอบนอก พื้นที่บนแผ่นดินใหญ่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และเป็นทวีปที่แบนและเล็กที่สุดในโลก <br /><br />สินค้าส่งออกของเรา <br /><br />โอปอลในดวงใจเรา <br />ประเทศออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตโอปอลที่มีค่ามากถึงร้อยละ 95 ของโลก และเป็นผู้ผลิตโอปอลดำร้อยละ 99 เมืองหลวงของโอปอลโลกเป็นเมืองใต้ดินที่ชื่อว่า Coober Pedy ในรัฐ ออสเตรเลียใต้ โอปอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีน้ำหนัก 5.27 กิโลกรัม ถูกค้นพบที่นี่ในปี 1990 <br /><br />ทองที่มีอยู่มากมาย <br />เมือง Kalgoorlie ในรัฐ ออสเตรเลีย ตะวันตกเป็นแหล่งผลิตทองคำที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย นอกจากนั้น เมืองนี้ยังเป็นเขตเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โดยครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลขนาด 2.2 ล้านตารางกิโลเมตร <br /><br />แกะพันธุ์ Merino และวัว <br />แกะ 85.7 ล้านตัว (ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ Merino) ในประเทศออสเตรเลียคือแหล่งผลิตขนแกะเกือบทั้งหมดของโลก และด้วยวัว 25.4 ล้านตัว ออสเตรเลียยังเป็นประเทศที่ส่งออกเนื้อวัวที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย <br /><br /><br /><br />สถิติที่เราสร้างขึ้น <br /><br />ตำนานทางธรรมชาติของเรา <br />แนวปะการังใหญ่ Great Barrier Reef ในรัฐควีนส์แลนด์ของเรา เป็นที่อยู่ของหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีน้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม ในขณะที่ไส้เดือนดิน 4 เมตรที่ยาวที่สุดในโลกก็พบได้ในเขตภูมิภาค Gippsland ในรัฐวิกตอเรีย ปูที่หนักที่สุด ซึ่งหนักถึง 14 กิโลกรัมก็พบอยู่ในช่องแคบ Bass Strait ใกล้รัฐแทสเมเนีย ภูเขาที่สูงที่สุดของออสเตรเลียคือภูเขา Mt. Kosciuszko มีความสูงถึง 2,228 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล <br /><br />ถนน ทางรถไฟ และรั้วที่ยาวที่สุดในโลก <br />รางรถไฟสายตรงที่ยาวที่สุดในโลกเหยียดยาวเป็นระยะทาง 478 กิโลเมตร ข้ามที่ราบ Nullarbor Plain ที่กว้างใหญ่และปราศจากต้นไม้ของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ถนนสายตรงที่ยาวที่สุดของออสเตรเลียซึ่งยาว 148 กิโลเมตร คือทางหลวง Eyre Highway ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งนั่นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของเส้นทางถนนระยะทาง 2,700 กิโลเมตรซึ่งนำนักท่องเที่ยวจากเมืองเพิร์ทเดินทางไปยังแอดิเลด รั้วต่อเนื่องที่ยาวที่สุดในโลกคือรั้วที่กั้นสุนัขป่าดิงโก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อปกป้องฝูงแกะจากสุนัขพื้นเมืองของออสเตรเลีย รั้วนี้มีความยาวถึง 5,531 กิโลเมตร ผ่านรัฐควีนส์แลนด์ตอนกลางและรัฐเซาท์ออสเตรเลีย <br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />.Prapasara.Comhttps://www.blogger.com/profile/10697914215155821190noreply@blogger.com