การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน หรือ Orthodontics ประกอบไปด้วยรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ ‘Orthos’ ซึ่งแปลว่า แก้ไข/ให้ตรง ส่วน ‘Dontics’ แปลว่า ฟัน การจัดฟันเป็นทันตกรรมเฉพาะทางแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเน้น การวินิจฉัย การป้องกัน และการแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การสบฟัน ตำแหน่งและขนาดของกระดูกขากรรไกร
การดัดฟันมีจุดประสงค์เพื่อการบดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดฟันสึก รวมทั้งยังทำให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสในการเกิดโรคทางทันตกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่ายังช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับคุณได้
การจัดฟันมีกี่แบบ?
การจัดฟันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้
1. การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ ได้แก่ ติดเครื่องมือแบบใช้ยาง O-ring เช่น การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก และการติดเครื่องมือแบบไม่ใช้ยาง (Self-ligating) เช่น การจัดฟันแบบดามอน (Damon)
2. การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เช่น จัดฟันใส Invisalign หรือ ดี-aligner
การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันในแต่ะละชนิด จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับ lifestyle และงบประมาณของคุณ วันนี้เรามาเรียนรู้การจัดฟัน และโปรจัดฟันในแต่ละประเภทกันดีกว่า
1. จัดฟันแบบโลหะ
คลินิกจัดฟันที่ราคาถูกที่สุด โปรจัดฟันเพียบ คุณหมอมีตัวช่วยเยอะเหมาะกับเคสซับซ้อน สนุกกับการเลือกเปลี่ยนสียางโอริงได้ทุกเดือน
การจัดฟันแบบโลหะ หรือ การจัดฟันแบบเหล็ก (Metal Bracket) เป็นวิธีดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่าย แบบสบายกระเป๋า
ข้อดีอีกอย่างของจัดฟันแบบโลหะธรรมดา คือ เหมาะสำหรับเคสที่ยากหรือซับซ้อน เนื่องจากคุณหมอสามารถควบคุม และปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนฟันของคุณในยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย และยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เสริม หรือการรักษาอื่นๆ เช่น การปักหมุดจัดฟัน, การดึงยาง มาเป็นตัวช่วยได้อีกด้วย
2. จัดฟันแบบเซรามิก
การจัดฟันแบบเซรามิก
เหมือนแบบโลหะ แต่ Bracket สีใส เหมาะกับเคสซับซ้อน ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา
การจัดฟันแบบเซรามิก คือ การจัดฟันที่มีวิธีการเคลื่อนตำแหน่งฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่เปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) โลหะ ให้เป็นเซรามิกใส ซึ่งสังเกตได้ยากเพราะมีสีคล้ายกับฟันธรรมชาติ ดูสวยงามกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพ หรือความต้องการที่จะคงบุคลิกภาพที่ดี ดูเป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฟันที่เรียงตัวผิดปกติเยอะ เป็นเคสยาก และต้องอาศัยการออกแรงดึงฟันที่ซับซ้อน รวมทั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันอื่นๆ มาช่วยเคลื่อนฟันเพิ่มเติม
ข้อดีอีกอย่างนอกจากความสวยงามคืออุปกรณ์จัดฟันที่เป็นเซรามิกจะมีความเรียบ และโค้งมนกว่าแบบโลหะ ลดโอกาสไปเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลร้อนในได้
3. จัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบดามอน
ใช้ตัวล๊อคแบบพิเศษ ไม่ต้องมีโอริง เจ็บน้อยกว่า จัดฟันเสร็จเร็วกว่า
จัดฟัน damon หรือ จัดฟันแบบดามอนคือ รูปแบบหนึ่งของการจัดฟันชนิดที่เรียกว่า ‘Self-Ligating Braces’ โดยคุณหมอจะไม่ใช้โอริง (o-ring) ในการยึดลวดเข้ากับอุปกรณ์จัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ที่ติดอยู่กับฟัน แต่จะใช้ Bracket แบบพิเศษซึ่งมีตัวล๊อคเปิดปิดได้เป็นตัวยึดลวดจัดฟัน
ข้อได้เปรียบของการจัดฟันแบบดามอนคือ ลวดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไม่ถูกยึดอยู่กับที่ด้วยโอริง แรงที่กระทำต่อฟันจะคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บน้อยกว่า เคลื่อนฟันได้นุ่มนวล รักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า โอกาสที่เศษอาหารติดก็จะลดลง ทำให้จัดฟันเสร็จไวกว่า และไม่ต้องเสียเวลามาพบคุณหมอบ่อยๆ
4. จัดฟันแบบใส
มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ดูเป็นผู้ใหญ่ คงลุคมืออาชีพอยู่ตลอด สามารถถอดได้ แปรงฟันง่าย รับประทานอาหารสะดวก ไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีโปรจัดฟันใส ราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อน
หากคุณไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ และการมี Bracket ติดอยู่ที่ฟันนั้นเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน หรือคุณต้องการลุคที่ดูเป๊ะ เป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา การจัดฟันแบบใส หรือดัดฟันใส เป็นคำตอบของคุณ การที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันด้วย
การจัดฟันแบบใสในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ได้แก่
- Invisalign – เป็นยี่ห้อจัดฟันใสจากอเมริกา มีจำนวนคนไข้ถึง 12 ล้านคน รวมทั้งเปิดให้บริการมายาวนานถึง 25 ปี Invisalign ถือเป็น Gold Standard ในการจัดฟันใส ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง invisalign ราคาเริ่มต้นที่ที่ 69,000 บ. ซึ่งจำกัดระยะเวลารักษาที่ 6 เดือน เคลื่อนฟันได้ถึงฟันกรามน้อยเท่านั้น และราคาจะแพงขึ้นตามความยากของเคสและเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันใส
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบใส invisalign เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
- จัดฟันใส d-aligner – เป็นแบรนด์จัดฟันใสแบบใหม่ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ใช้เทคโนโลยีจัดฟัน และวางแผนจากอเมริกาเช่นกัน แต่คลินิกสามารถใช้เทคโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ผลิตชิ้นงานขึ้นมาได้เอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้คุณเข้าถึงการจัดฟันใสได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณหมอประจำตัวคอยดูแล และให้คำปรึกษากับคุณจนจัดฟันเสร็จ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันใส d-aligner เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
- จัดฟันใสยี่ห้ออื่นๆ ปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Zenyum, BeforeDent, Clear Correct ฯลฯ
สมัยก่อนการจะจัดฟันใสนั้นมีค่าใช้จ่ายแพงมาก บางเคสต้องควักกระเป๋าจ่ายเป็นแสนบาท แต่เพราะ เราอยากรู้ว่าการจัดฟันมีข้อดีจำนวนมาก เราจึงอยากให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการจัดฟันใสในราคาที่สมเหตุสมผล Smile Seasons ได้นำเทคโนโลยี Digital Dentistry ระดับโลกมาใช้ เราภูมิใจที่จะขอแนะนำ แบรนด์จัดฟันใส ‘ดี-aligner’ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตจัดฟันใสขึ้นมาได้เองใน คลินิกทันตกรรม
ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน ?
การจัดฟันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัว และการสบฟันที่ผิดปกติแบบใดได้บ้าง
1. ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือ บิด – ปัญหาเหล่านี้เป็นประเด็นหลักที่นำคนไข้เข้ามารับการรักษา หากฟันซ้อนกันมากๆ คุณหมออาจจำเป็นต้อง ถอนฟัน บางซี่ออก มีการตะไบฟัน หรือขยายขากรรไกรเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟัน
2. ฟันห่าง – ปัญหาฟันห่าง สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
3. ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว – เป็นภาวะที่กึ่งกลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สามารถแก้ฟันเบี้ยวได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
4. Deep bite หรือ ฟันสบลึก เป็นภาวะที่ฟันบนสบลงมาฟันล่างลึกเกินไป
5. Cross bite หรือ ฟันสบคร่อม เป็นภาวะที่ฟันล่างคร่อมฟันบน
6. Open bite หรือ ฟันสบเปิด เป็นภาวะที่ฟันบนและฟันล่างไม่สามารถสบสัมผัสกันได้ หรือที่เรียกกันว่า ฟันไม่สบกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการเรียงตัวของฟัน
สงสัยกันไหมว่าทำไมคนเดี๋ยวนี้ถึงมีฟันเรียงตัวผิดปกติกันเยอะ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงกันแน่
1. วิวัฒนาการของมนุษย์ – อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว จากการศึกษาโครงกระดูกของมนุษย์ เราจะพบว่าบรรพบุรุษของเรานั้นมีฟันที่เรียงตัวดี และแทบไม่มีฟันคุดอยู่เลย ที่เป็นแบบนั้นเพราะขากรรไกรของมนุษย์สมัยก่อนนั้นใหญ่กว่าในปัจจุบัน การปฎิวัติการเกษตร และอุตสาหกรรมทำให้เราปรุงอาหารได้ดีขึ้น มีอุปกรณ์ในการหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กลง ทำให้จำนวนครั้งในการเคี้ยวน้อยลงตามไปด้วย ขนาดของขากรรไกรในมนุษย์จึงหดเล็กลงเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่ของฟันน้อยลง แต่จำนวนฟันเท่าเดิม เกิดเป็นการเรียงตัวที่ผิดปกติของฟัน จนต้องลงเอยที่การจัดฟัน
2. ฟันล้ม – หากคุณเคยถอนฟันมาก่อนและไม่ได้บูรณะทดแทนฟันด้วย รากฟันเทียม สะพานฟัน หรือฟันปลอม ฟันซี่ข้างเคียงก็จะเคลื่อน และล้มเข้ามาในช่องว่างที่เกิดขึ้น
3. โดนฟันคุดดัน – สาเหตุหนึ่งที่คุณหมอแนะนำให้ถอนฟันคุดออกเพราะ ฟันคุดสามารถดันฟันซี่อื่นให้เอียง หรือขยับมาซ้อนกันได้
4. พฤติกรรมบางอย่าง – การหย่าขวดนมช้า การดูดนิ้ว ภาวะลิ้นดุนฟัน อาจทำให้การเรียงตัวของฟันผิดปกติ
ควรจัดฟันดีไหม จัดฟันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าการจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความสวยงามเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ที่การมีฟันเรียงสวยนั้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพของคุณในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคุณหมอแล้ว การจัดฟันยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น
1. ช่วยลดปัญหาทันตกรรมอย่างอื่น เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือ ฟันผุ – ทั้งนี้เนื่องจากฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบนั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทั่วถึงกว่า การจัดฟันจึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้
2. ช่วยในการย่อยอาหาร – การสบฟันที่ดีขึ้นสามารถทำให้คุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดกว่า ลดภาระของระบบทางเดินอาหารลง บอกลาอาการท้องอืด ปวดจุกท้อง และลดโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อน
3. ลดโอกาสการละลายของกระดูกขากรรไกร – กระดูกขากรรไกรที่ปกติจะได้รับแรงจากฟันที่สบกันเวลาเคี้ยวอาหาร แรงสบฟันจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกได้
4. ช่วยให้พูดชัดขึ้นได้ – พยัญชนะเช่น ฟ ส ซ หรือตัว S ต้องใช้การออกเสียงผ่านฟัน ซึ่งผู้ที่ฟันเรียงตัวผิดปกติอาจออกเสียงได้ไม่ชัดเจน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน
5. ช่วยลดความอูมของริมฝีปาก – จะยิ่งเห็นชัดเจนในเคสที่มีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน
6. เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ – คนไข้ที่จัดฟันเสร็จแล้วมักจะมีความมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เป็นเสน่ห์และความสดใสที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
ข้อดีในการจัดฟัน
การจัดฟันมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่างดังนี้
1. สุขภาพช่องปากดีขึ้น – ฟันที่เรียงสวย ตรง และเป็นระเบียบจะทำให้คุณสามารถรักษาสุขอนามัยของช่องปากได้ดีมากขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและฟันผุ
2. การเคี้ยวและการพูดดีขึ้น – ฟันที่เรียงไม่ตรงอาจมีปัญหาในการสบฟันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด หรือมีช่องว่างทำให้ออกเสียงพูดได้ไม่ชัดเจน ซึ่งการจัดฟันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
3. ยิ้มสวยมากขึ้น – แน่นอนว่าการจัดฟันสามารถทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง
4. ป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต – การจัดฟันสามารถแก้ไขฟันที่เก เรียงตัวไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดกราม ปวดหัวเรื้อรัง หรือ ฟันสึก
5. สุขภาพโดยรวมดีขึ้น – สุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสุขภาพโดยรวมของคุณ ดังนั้น การปรับปรุงสุขภาพฟันด้วยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นด้วย
ข้อจำกัดในการจัดฟัน
แม้ว่าการจัดฟันจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
1. ระยะเวลาในการรักษา – การจัดฟันมักใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะหลายปีจนกว่าจะเสร็จ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน คุณต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ และมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนการรักษา
2. ความเจ็บปวด – คนไข้มักรู้สึกปวดในระหว่างการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 วันแรกของการปรับเครื่องมือจัดฟัน (ในกรณีจัดฟันแบบติดแน่น) หรือการเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันใส
3. ข้อจำกัดด้านอาหาร – เมื่อจัดฟัน คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หรือปรับเปลี่ยนประเภทอาหารในระหว่างจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็ก หรืออุปกรณ์จัดฟันเสียหาย ในกรณีจัดฟันแบบใส คุณสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ลดข้อจำกัดของตัวเลือกในการรับประทานอาหารลง
4. ค่าใช้จ่าย – การจัดฟันแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกัน คุณควรพิจารณาตัวเลือก และงบประมาณที่เหมาะสมกับคุณ
5. การเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม – หากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หลังจัดฟันเสร็จ ฟันของคุณมีความเสี่ยงในการเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
6. สุขอนามัยในช่องปาก – การรักษาความสะอาดในช่องปากเป็นเรื่องท้าทายขึ้น เมื่อมีเหล็กดัดฟัน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในช่องปาก คุณต้องหมั่นแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
ควรเลือกเทคนิคการจัดฟันแบบไหนดี ?
การจัดฟันปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคโดยแบ่งเป็นการจัดฟันแบบติดแน่น เช่น การจัดฟันแบบโลหะแบบทั่วไป ซึ่งโดดเด่นที่ราคาถูก สามารถจัดได้ในเคสยากซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนสีโอริงได้ หรืออยากเรียบร้อยขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นแบบเซรามิกซึ่งใช้หลักการเดียวกัน แต่อุปกรณ์จัดฟันจะสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากคุณต้องการจัดฟันให้เสร็จเร็ว เจ็บน้อยลง และไม่อยากถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน คุณอาจเขยิบไปจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบใสอย่างเช่น ดี-aligner หรือ invisalign เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่รบกวนบุคลิกภาพ ยังสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ และถอดออกตอนแปรงฟันกับรับประทานอาหารได้ ทำให้สุขภาพช่องปากดีกว่า รวมทั้งลดข้อจำกัดในการทานอาหาร นอกจากนี้ยังไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ อีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหน การจัดฟันราคาเท่าไหร่ อยากได้ข้อมูลการจัดฟัน เราแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ : จัดฟันมีกี่แบบ ? ควรเลือกอย่างไร บอกข้อดีข้อเสียแบบหมดเปลือก!
อยากจัดฟันครั้งแรกต้องเริ่มต้นอย่างไร
เมื่อเรารู้จักการจัดฟันชนิดต่างๆ แล้ว สำหรับคนที่จัดฟันครั้งแรก คุณหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ในคลินิก เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด สิ่งที่คุณจะใช้รับจากการปรึกษาจัดฟันครั้งแรกกับคุณหมอที่ Smile Seasons คือ
- สุขภาพช่องปากของคุณ – มีฟันผุหรือไม่ มีเหงือกอักเสบหรือเปล่า มีฟันคุดที่ควรต้องจัดการก่อนเริ่มการจัดฟันไหม
- เอ็กซเรย์ภายนอกและภายในช่องปาก – เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
- เลือกชนิดของการจัดฟัน – คุณอาจจะมีตัวเลือกการจัดฟันอยู่ในใจ แต่การมาพบคุณหมอ คุณก็จะได้ข้อมูลทางคลินิกเพิ่มเติม และสามารถปรึกษากับคุณหมอเพื่อเลือกชนิดของการจัดฟันที่เหมาะสมสำหรับคุณ
- แผนการรักษาคร่าว ๆ – คุณอาจสามารถจัดฟันได้เลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการถอนฟัน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการเรียงฟัน ในบางครั้งอาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันพิเศษ เช่น มินิสกรูหรือหมุดจัดฟัน (Mini screw) เป็นต้น
- ราคาจัดฟันครั้งแรก – คุณหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก สามารถประเมินราคาค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปาก จัดฟัน ตามแผนการรักษาให้คุณได้
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ในบางครั้งความผิดปกติของฟันจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งของขากรรไกรที่ผิดปกติด้วย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ถึงจะสามารถแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติได้
การผ่าตัดสามารถทำแค่ขากรรไกรล่างอย่างเดียว หรือทำทั้งบนและล่าง ขึ้นอยู่กับปัญหาทางคลินิกของคุณ โดยส่วนใหญ่คุณจะต้องเข้ารับการจัดฟันไปสักระยะหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยทำการผ่าตัดซึ่งต้องทำในโรงพยาบาล เมื่อการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย คุณจะต้องจัดฟันต่ออีกหลายเดือนถึงจะเสร็จสิ้นการรักษา หากคุณเคยได้รับการวินิจฉัยว่าควรต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด คุณสามารถติดต่อเราเพื่อทำนัดพบกับคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางจากเราได้
ทำความรู้จักกับเครื่องมือจัดฟัน
การจัดฟันเป็นการรักษาที่ใช้เวลารักษานานจึงเป็นการดีหากคุณรู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์จัดฟันแบบติดแน่นที่จะอยู่กับคุณไปเป็นเวลาหลายเดือน หรือบางกรณีก็หลายปี
ส่วนประกอบหลักของเครื่องมือจัดฟัน
1. Bracket – Bracket เป็นส่วนที่ติดแน่นอยู่บนผิวฟันด้วยกาวทางทันตกรรมแบบพิเศษ ทำหน้าที่ส่งผ่านแรงจากลวดจัดฟันมาที่ตัวฟัน Bracket นั้นมีทั้งที่ลักษณะเป็นโลหะ ซึ่งมักทำจาก Stainless Steel หรือมีลักษณะเป็นสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นเซรามิกที่ทำจาก Sapphire
2. ลวดจัดฟัน (Archwire) – ลวดจัดฟันเป็นส่วนสำคัญในการออกแรงเคลื่อนฟัน มีหลายขนาด หลายเบอร์ รวมถึงทำจากวัสดุหลายชนิด ทันตแพทย์จะเป็นคนดัดลวดจัดฟันรวมถึงเลือกชนิดและขนาดที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันของคุณให้เป็นไปตามแผนการรักษา
3. ตัวรัด (Ligature) – เป็นส่วนที่ยึด Bracket กับลวดจัดฟันเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจใช้ลวดขนาดเล็กๆ หรือใช้ยางโอริงที่มีสีสันสวยงามแบบที่เห็นกันทั่วไปก็ได้ การจัดฟันชนิดดามอนซึ่งเป็นระบบ Self ligating system สามารถล๊อคลวดจัดฟันเข้ากับ Bracket แบบพิเศษได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้ตัวรัดเพิ่มเติม
อุปกรณ์เสริมของเครื่องมือจัดฟัน
บางครั้งแค่อุปกรณ์หลักก็ไม่เพียงพอที่จะออกแรงเคลื่อนฟันไปตามแผนการรักษาได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าคุณหมอมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบซึ่งถือเป็นข้อดีหนึ่งของการจัดฟันแบบโลหะ ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมมีดังนี้
- ยางดึงฟัน (Elastic) – มักใช้ดึงฟันไปแนวหน้าหลัง หรือแนวดึ่งเพื่อแก้ไขการสบฟัน โดยคุณหมอจะแนะนำวิธีการคล้องยางดึงฟันให้กับคุณ ซึ่งโดยปกติจะต้องเปลี่ยนยางทุกๆ 1-2 วัน
- เชนดึงฟัน (Power Chain) – ไว้ดึงฟันในแนวหน้าหลังเช่นกัน มีหลายสี คุณหมอเป็นคนใส่ให้ และห้ามถอดออกเอง คนไข้จัดฟันไม่จำเป็นต้องใช้เชนดึงฟันทุกคน ฉะนั้นหากคุณหมอไม่ใส่เชนให้ก็ไม่ต้องตกใจไป
- สปริง (Spring) – เอาไว้ดึง หรือดันฟันไปยังตำแหน่งต่างๆ โดยสปริงจะออกแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับเชนดึงฟันที่แรงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
- หมุดจัดฟัน (Miniscew) – ใช้เป็นหลักยึดที่แข็งแรง เพื่อนำอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มายึดเพื่อเคลื่อนฟันในเคสที่ซับซ้อน
- ตัวหนุนฟัน (Raise Bite หรือ Bite turbo) – เป็นวัสดุสีฟ้า หรือสีเหมือนฟัน เพื่อยกฟันแยกจากกัน เพื่อแก้ไขการสบฟันในแนวดิ่ง ระหว่างนี้คุณอาจจะเคี้ยวอาหารยากขึ้นนิดหน่อย
Orthodontics , จัดฟันคืออะไร , จัดฟันมีกี่แบบ , การดัดฟัน , ข้อดีของการดัดฟัน , ข้อเสียของการดัดฟัน
CR :: https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/12/orthodontics.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น