ศูนย์ LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

04 กรกฎาคม 2555

ลัทธิไซแอนโทโลจี

ลัทธิไซแอนโทโลจี

ไซแอนโทโลจี (Scientology)

เวลานี้ ศาสนา Scientology กำลังประสบความสำเร็จมากในอเมริกา และกำลังขยายไปในหลายประเทศ  โดยพยายามที่จะใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นกระบอกเสียงนิกาย และวิธีนี้ประสบความสำเร็จในอเมริกา มีการตั้ง celebrity center ด้วยความเชื่อที่ว่า บุคคลที่มีชื่อเสียงสามารถมีอิทธิพลในการจูงใจคน ตัวอย่างดาราที่เป็นสาวกของศาสนานี้คือ ทอม ครู๊ซ หรือ จอน ทราโวลต้า  รวมทั้งคนในแวดวงบันเทิงอีกมากมาย
ศาสนานี้ได้อ้างว่าบัดนี้มีสาวกทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคน  ชื่อ Scientology ก็สะท้อนอยู่แล้วว่า ศาสนานี้น่าจะยึดโยงกับวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ ข้อมูลที่พอสืบค้นได้มีอยู่ว่า ผู้ก่อตั้งหรือศาสดาของศาสนานี้ชื่อว่า  L. Ron Hubbard (แอล. รอน ฮับบาร์ด) ซึ่งเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญาและนักเขียน ก่อตั้งศาสนานี้เมื่อปี 1954
เขาได้พัฒนาหลักการที่เรียกว่า Scientology (อ่านว่า ซายเอนโทโลจี)
ที่กล่าวกันว่า สามารถทำให้คนเราบรรลุถึงการหลุดพ้นได้ด้วยวิธีการทาง  "วิทยาศาสตร์" และที่ไปไกลกว่าศาสนาทั่วไปก็คือ
เขาได้เสนอกระบวนการอันเป็นระบบที่จะทำให้ "การหลุดพ้น" หรือการ  "รู้แจ้ง" เกิดเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างเป็นรูปธรรม  และยังนำไปสู่เป้าหมายธรรมดาๆ อย่างเช่นการมีสภาพจิตใจที่แจ่มใสอีกด้วย
หลักการของไซแอนโทโลจี เกิดขึ้นจากวิทยาศาสตร์แห่งสุขภาพจิต ที่ชื่อว่า  ไดอะเนติกส์ ซึ่ง ฮับบาร์ด  ได้ทำการทดลองในเรื่องเกี่ยวกับเซลล์สิ่งมีชีวิต ในปี 1937  และได้ผลสรุปว่า  แรงผลักดันในการมีชีวิตรอดนั้นอยู่เหนือแรงผลักดันในการดำรงชีวิตอื่นใด  และเป็นแรงผลักดันซึ่งมีอานุภาพ บางคนบอกว่า ศาสนานี้อิงแนวพุทธบางส่วน นอกนั้นก็อิงจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์  แต่ไม่ปรากฎว่ามีพระเจ้าในศาสนาอย่างไร

แม้ว่าศาสนาใหม่นี้จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีสาวกมากมาย
และได้เงินทองมากมาย แต่ก็เริ่มถูกต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
มีข่าวรายงานออกมาแล้วว่า พอล แฮกกิส ผู้กำกับหนังออสการ์ Crash
โบกมืออำลาลัทธิ Scientology ที่เป็นสาวกมา 35 ปี  เพราะผิดหวังที่ลัทธิปฏิเสธสิทธิเสมอภาคของรักร่วมเพศ คัดค้านการแต่งงานของชาวเกย์ โดย แฮกกิสเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง  Scientology ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม แต่เพิ่งนำมาลงในบล็อก  ระบุว่าเขารับไม่ได้ที่สาขาของ Scientology ในซานดิเอโก  สนับสนุนการลงประชามติ Proposition 8 ซึ่งห้ามการแต่งงานเพศเดียวกัน  แล้วทางศูนย์กลางของ Scientology ก็ไม่คัดค้านการกระทำดังกล่าว

ขณะที่ชาวฮอลลีวู้ดส่วนใหญ่สนับสนุนการแต่งงานเกย์เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพ  โฆษกของ Scientology ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้คัดค้านการแต่งงานเกย์  "เราสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของชนกลุ่มน้อย เพราะเราก็เป็นชนกลุ่มน้อย   รู้ดีว่าการถูกละเมิดสิทธิเป็นอย่างไร"
Scientology  ถือตัวเองเป็นศาสนาหนึ่งแต่บัดนี้กำลังถูกโจมตีว่าเป็นแค่ลัทธิประหลาดหลอกเอาเ งินสาวก 


ที่เบอร์ลินพึ่งมีโบสถ์ของ Scientology ไม่กี่เดือนมานี่เอง  เห็นมีคนท้องถิ่นออกมาต่อต้านบางส่วน รวมไปถึงพวกนักการเมืองเยอรมันด้วย  มีนักการเมืองเยอรมันหลายคนออกมาต่อต้านอย่างจริงจัง
มีการถกเถียงกันอยู่ว่าจะมีการจับตามองนิกายนี้อย่างเข้มงวดไหม
นอกจากนี้ยังเกิดการประท้วงศาสนานี้กันเพราะเป็นนิกายที่เหมือนการขายสินค้า  คือ นิกายขายตรง จะให้ผู้ที่เข้าไปใหม่ทำเทส OCA-Test
จะเป็นแนวจิตวิทยาเผยให้เห็นปัญหาของตัวเอง จากนั้นก็จะเสนอ course  ให้แก้ปัญหา course นี่ก็จะเเพงไม่แพงขึ้นอยู่กับปัญหานั้นๆ
แล้วจะมีเทสไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการยกระดับตัวเองขึ้น

ฝรั่งเศสสั่งปรับโบสถ์ลัทธิไซแอนโทโลจี ฝรั่งเศส 28 ต.ค. - ศาลในฝรั่งเศสสั่งปรับโบสถ์ลัทธิไซแอนโทโลจี  (Scientology) ตลอดจนหนึ่งในผู้นำของลัทธิ ข้อหาหลอกหลวงสมาชิก  แต่ไม่สามารถสั่งแบนกิจกรรมของลัทธินี้ได้  ศาลในกรุงปารีสสั่งปรับศูนย์ผู้มีเชื่อเสียงและศูนย์หนังสือ  ซึ่งเป็นเครือข่ายลัทธิไซแอนโทโลจีในฝรั่งเศส เป็นเงินมูลค่า 600,000  ยูโร หรือประมาณ 31.5 ล้านบาท จากคดีหลอกลวงเอาเงินจากสมาชิกในช่วงทศวรรษ  1990 ขณะที่ อแลง โรเซนเบิร์ก ผู้นำไซแอนโทโลยีในฝรั่งเศส ถูกสั่งปรับ  30,000 ยูโร ในข้อหาเดียวกัน
แต่ศาลไม่สามารถสั่งยุติกิจกรรมของลัทธิแห่งนี้ได้  ด้านทนายความของโบสถ์ไซแอนโทโลจี ระบุว่า จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป


ลัทธิไซแอนโทโลจีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2497 ได้รับการรับรองจากสหรัฐให้เป็นศาสนาหนึ่ง ปัจจุบันมีสาวกราว 12  ล้านคนทั่วโลก รวมถึงทอม ครูซ และจอห์น ทราโวลตา ตลอดจนคนมีชื่อเสียงในแวดวงสังคมและดาราออลลีวูดอีกจำนวนมาก.


สำนักข่าวไทย




รู้จักลัทธิไซแอนโทโลจี เหตุการหย่าร้างของทอม ครูซ - เคที่ โฮล์มส์


ไซแอนโทโลจี (Scientology)



          กลายเป็นข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์ระดับโลกไปแล้วตอนนี้ สำหรับการหย่าร้างระหว่างทอม ครูซ และเคที่ โฮล์มส์ ที่เปิดเผยออกมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงที่นำมาซึ่งการหย่าร้างของทั้งคู่ แต่สื่อหลายแห่งก็ต่างออกมาตั้งข้อสันนิษฐานกันไปต่าง ๆ นานา โดยเหตุผลของการหย่าร้างที่ลือกันอย่างกว้างขวางในตอนนี้ เห็นจะเป็นเรื่องของลัทธิไซแอนโทโลจี ที่ฝ่ายทอม ครูซ มีศรัทธาอย่างเคร่งครัด และกำลังจะส่งตัวหนูน้อยซูริ ครูซ ลูกสาวไปเรียนในโรงเรียนที่สอนหลักสูตรลัทธิไซแอนโทโลจีเข้มข้น เลยทำให้เคที่ โฮล์มส์ เครียดหนัก ไม่เอาด้วยกับแนวคิดของสามีเธอ

งานนี้เลยทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ลัทธิไซแอนโทโลจี ที่นำมาซึ่งการหย่าร้างระหว่างทอม ครูซ และเคที่ โฮล์มส์ (ตามคำสันนิษฐานของสื่อ) นั้น คือลัทธิอะไร และมีแนวคิดอย่างไรกันหนอ วันนี้ กระปุกดอทคอมเลยขอหยิบยกเรื่องราวของลัทธินี้มาเล่าให้ฟังโดยสังเขปจ้า

ไซแอนโทโลจี (Scientology) เป็นลัทธิความเชื่อหนึ่งที่ชี้นำผู้คนไปสู่การเข้าใจจิตวิญญาณตามธรรมชาติของตัวเอง ความสัมพันธ์ต่อตัวเอง ครอบครัว กลุ่ม เพื่อนมนุษย์ สิ่งมีชีวิตบนโลก รวมไปถึงจักรวาล ก่อตั้งขึ้นโดย รอน ฮับบาร์ด นักประพันธ์นิยายชาวอเมริกัน เมื่อปี 1952 หลังจากที่เขาเขียนบทความเรื่องไดอานาทิค ขึ้นมา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาทางจิตใจ และวิเคราะห์เจาะลึกย้อนไปในอดีต เพราะเชื่อว่าความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจล้วนแล้วแต่เป็นผลจากความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังลึกโดยไม่รู้ตัวแทบทั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงไปถึงจักรวาล จิต และการเข้าสู่สภาวะอนันต์หลังเสียชีวิตด้วย

โดย รอน ฮับบาร์ด ได้บัญญัติคอร์สการเคลียร์โปรแกรมเพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ขึ้นมาเอง หลังจากที่เขาได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเองแล้ว ซึ่งการฟื้นฟูจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ตามแนวทางของรอน ฮับบาร์ด นี้ ถูกอ้างว่าเป็นวิธีที่สามารถบำบัดรักษาได้ทั้งความเจ็บป่วยทางด้านจิตใจ ไปจนถึงโรคทางร่างกายต่าง ๆ เช่น มะเร็ง ไขข้ออักเสบ อาการติดยา เป็นต้น แต่ผู้ที่จะเข้าปฏิบัติตามคอร์สของรอน ฮับบาร์ด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย แถมยังมีหลายคอร์ส เรียกว่ากว่าจะทำการชำระล้างฟื้นฟูจิตวิญญาณได้ตามแนวทางของรอน ฮับบาร์ด ก็ต้องเสียใช้จ่ายสูงสุดถึงหลักล้านเลยทีเดียว

ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการบำบัดฟื้นฟูจิตใจและความเจ็บป่วยทางร่างกายเฉกเช่นเดียวกับที่จิตแพทย์ทั่ว ๆ ไปทำ แต่มันมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะลัทธิไซแอนโทโลจีจะมีการปลูกฝังความเชื่อบางอย่างตามแบบของรอน ฮับบาร์ด ไปพร้อม ๆ กับการบำบัดด้วย นอกจากนี้ยังมีการล้างสมองสาวกให้ต่อต้านการแพทย์และการรักษาทางจิตวิทยาสมัยปัจจุบัน และต่อต้านพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์บางอย่าง รวมทั้งให้สาวกตัดขาดจากญาติพี่น้องที่โจมตีลัทธินี้ด้วย

คราวนี้มาดูประเด็นของสมาคม ซี ออร์แกไนเซชั่น (Sea Organisation) ที่สื่อหลายแห่งระบุว่า ทอม ครูซ จะพาหนูน้อยซูริ ไปเข้ารีตตามแบบไซแอนโทโลจีกันบ้าง สมาคมนี้ เป็นสมาคมที่ลัทธิไซแอนโทโลจีสร้างขึ้นเพื่อปกป้องและรับใช้ตนเองโดยเฉพาะ โดยถ้าหากใครได้เข้ามาแล้ว ก็จะมีข้อผูกมัดว่าต้องรับใช้ลัทธิเป็นเวลา 1 พันล้านปี แม้ตายไปก็ต้องกลับมารับใช้ ซึ่งเด็ก ๆ ที่เข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมจะไม่ได้รับการศึกษาตามระบบทั่วไป แต่จะถูกปลูกฝังให้มีแนวความคิดเคร่งครัดตามแบบไซแอนโทโลจี หากพยายามออกจากสมาคม จะถูกเก็บค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ทางลัทธิยังมีการแนะไม่ให้สมาชิกมีครอบครัวหรือทายาทเพื่อรับใช้ลัทธิอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ดี แม้ว่าลัทธิไซแอนโทโลจีจะถูกรับรองให้เป็นศาสนาหนึ่ง ซึ่งทางลัทธิเองอ้างว่ามีสมาชิกทั่วโลกถึง 12 ล้านคน แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนก็ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านลัทธินี้อยู่หลายครั้ง และตกเป็นข่าวฉาวมานับไม่ถ้วนเช่นกัน แม้ว่าลัทธินี้จะพยายามดำเนินการทุกอย่างอย่างเป็นความลับและระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นข่าวก็ตาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การตกเป็นข่าวฉาวของลัทธินี้ เกิดจากสมาชิกเองที่เกิดไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปฎิบัติตนของลัทธิ จึงออกมาแฉถึงความเชื่อที่ขัดกับความถูกต้องหลาย ๆ อย่างของลัทธินี้ ทั้งในเรื่องของการหลอกลวงเอาเงินจากสมาชิก การห้ามสมาชิกคบหาสมาคมกับญาติพี่น้องตัวเองที่ต่อต้านลัทธิ การควบคุมสาวกไม่ให้ตีจากหรือออกจากลัทธิ และการอ้างวิทยาศาสตร์จอมปลอมที่เกิดจากความคิดของรอน ฮับบาร์ด เองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มวิชาชีพใด ๆ

ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ทำให้ลัทธินี้ค่อนข้างจะโด่งดังโดยเฉพาะในวงการฮอลลีวูด ก็เพราะบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการมากมายนับถือลัทธินี้ ไม่ว่าจะเป็น ทอม ครูซ, จอห์น ทราโวตา, วิลล์ สมิธ, แคเธอรีน เบล, เบ็ค แฮนเซน เป็นต้น ซึ่งการที่คนดังเหล่านี้ประกาศตัวเองว่านับถือลัทธิไซแอนโทโลจีนี้ ก็ถือว่าเป็นการช่วยโปรโมทลัทธินี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว



ที่มา  กระปุกดอทคอม

6 ความคิดเห็น:

  1. "รูเพิร์ต เมอร์ด็อก"ทวีท"ไซแอนโทโลจี"เป็นลัทธิประหลาด อ้าง"ทอม ครูซ"เป็นสาวกอันดับสองหรือสาม



    นายรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าพ่อสื่อชาวอเมริกัน และประธานบริษัทนิวส์คอร์ป ทวีตโจมตี"ทอม ครูซ" ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง ว่าเป็นสาวกอันดับสองหรือสามของลัทธิไซแอนโทโลจี และว่าลัทธินี้เป็นลัทธิประหลาดที่มีเงินเกี่ยวข้องจำนวนมาก หลังจากฝ่ายหลังหย่าขาดจากแคที โฮล์มส ภรรยาที่อยู่กินกันมา 5 ปี



    นายเมอร์ด็อก ทวิตในหน้าทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเขา @rupertmurdoch หลายข้อความ เช่น "ลัทธิไซแอนโทโลจีกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง" "แปลกมาก ทอม ครูซ มีเอี่ยวกับเรื่องเงินทอง และเขาเป็นสาวกเบอร์สองหรือสาม"

    เขายังเขียนว่า "คอยจับตาดูเรื่องของเคธี่ โฮลม์กับไซแอนโทโลจีให้ดี คนเหล่านี้มีบางอย่างน่ากลัว ถึงขั้นเลวร้าย" นายเมอร์ด็อก ยอมรับว่า ข้อความของเขาจะจุดกระแสภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง เพราะสาวกของลัทธิจะทวิตตอบโต้เขาอย่างถล่มทลายและอาจมีการข่มขู่ แต่ขอให้ทุกคนเกาะติดทวิตเตอร์ของเขาให้ดี



    อย่างไรก็ดี เมื่อมีผู้ถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับลัทธิมอร์มอน นายเมอร์เด็อกกล่าวว่า มอร์มอนเป็นเรื่องลึกลับสำหรับเขา แต่มอร์มอนก็ไม่ใช่ปิศาจเสียทีเดียว



    ปกติแล้ว นายเมอร์ด็อก ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจโรงถ่ายภาพยนตร์และสื่อหลายอย่างทั่วโลกไม่ออกมาโจมตีดาราดังอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แต่ ครูซ เคยถูกนายซัมเนอร์ เรดสโตน ผู้ถือหุ้นใหญ่ในพาราเมาท์พิกเจอร์ส ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อทั้งสองฝ่ายหมดสัญญากัน หลังจากภาพยนตร์เรื่อง"มิชชั่นอิมพอสซิเบิลภาค 3" ทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควรว่า ครูซ มีพฤติกรรมที่บริษัทไม่สามารถรับได้ ซึ่งหมายถึงการที่จู่ ๆ เขาก็กระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ขณะให้สัมภาษณ์ในรายการของโอปราห์ วิมฟรีย์ หรือการแสดงความรักต่อโฮล์ม ในรายการโทรทัศน์ต่อหน้าผู้ชมหลายล้านคน



    ครูซ และโฮล์ม กลายเป็นข่าวใหญ่ เมื่อ โฮล์ม ยื่นขอหย่าที่นครนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์และขอสิทธิเลี้ยงดู ซูริ บุตรสาววัย 6 ขวบ ขณะที่ ครูซ กำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ที่ไอซ์แลนด์




    .

    ตอบลบ
  2. ผู้กำกับรางวัลออสการ์จวกลัทธิ "ไซแอนโทโลจี" ต่อต้านเกย์ ห้ามคบญาติ


    ตกเป็นข่าวอีกครั้งสำหรับ "ไซแอนโทโลจี" ลัทธิอันโด่งดังประจำฮอลลีวูด เมื่อ “พอล แฮกกิส” ผู้กำกับชื่อดัง ที่ศรัทธาลัทธิดังกล่าวมาถึงกว่า 35 ปี ออกมาแฉถึงความเชื่อหลายๆ อย่างที่เขารับไม่ได้ รวมเรื่องแนวคิดต่อต้านการแต่งงานของเพศเดียวกัน และข้อห้ามคบญาติ และเพื่อน จนนำมาซึ่ง ออกมาประกาศถอนตัวจากลัทธิในวันนี้

    พอล แฮกกิส คนทำหนังเจ้าของผลงานอย่าง Crash ได้เขียนจดหมาย ถึง ทอมมี่ เดวิส ผู้นำของโบสถ์ ไซแอนโทโลจี เพื่ออธิบายถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า เขาผิดหวังกับนโยบายหลายๆ อย่างของลัทธิ โดยเฉพาะจุดยืนปฏิเสธการสมรสของคนเพศเดียวกัน ของไซแอนโทโลจี

    ในจดหมายที่ต่อมาถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน มีข้อความเปิดใจ ถึงสาเหตุการถอนตัวจาก ไซแอนโทโลจี หลังจากศรัทธามากว่า 35 ปีว่า “ด้วยสติสัมปชัญญะของผม มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ถ้าจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของ องค์กรที่ปฏิเสธสิทธิของคนรักเพศเดียวกัน”

    คนทำหนังวัย 56 ให้ข้อมูลว่า เขาเคยพยายามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ ไซแอนโทโลจี เพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว และได้รับคำยืนยันจาก ทอมมี่ เดวิส ผู้นำลัทธิ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎที่น่านี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “การนิ่งเงียบแบบนี้เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้” แฮกกิส กล่าว

    ยังมีอีกหลายจุดในความเชื่อของ ไซแอนโทโลจี ที่สร้างความไม่พอใจแก่คนหนังผู้นี้ หนึ่งในนั้นก็คือ นโยบาย ‘ห้ามติดต่อ’ ที่ห้ามผู้ศรัทธาในลัทธิมีสัมพันธ์ใดๆ กับผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อ, ไม่เห็นด้วย หรือออกมาวิจารณ์ในทางเสียหาย ต่อ ไซแอนโทโลจี ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือครอบครัว แฮกกิส เปิดเผยว่าภรรยาของเขา ถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อหรือพูดคุยกับพ่อแม่ของเธอ เป็นเวลายาวนานเกินหนึ่งปีมาแล้ว

    จดหมายดังกล่าวนี้ถูกเขียนขึ้น และถูกส่งไปถึง ไซแอนโทโลจี ในเดือน ส.ค. แต่ในขณะนี้มันกลายเป็นจดหมายเปิดผนึก ที่ถูกตีพิมพ์ในวงกว้างตามเว็บไซต์ต่างๆ และมีผู้ได้อ่านเป็นจำนวนมาก ตัวแทนของผู้กำกับชื่อดัง ออกมายืนยันว่าจดหมายฉบับดังกล่าวเป็นของจริง อย่างไรก็ตามมันเป็นจดหมายส่วนตัว ที่ไม่ทราบว่าถูกเผยแพร่ออกไปได้อย่างไร

    สำหรับความเคลื่อนไหวของ ไซแอนโทโลจี ต่อจดหมายดังกล่าว ทอมมี่ เดวิส ผู้นำลัทธิ ได้ออกมาตอบโต้ ว่ากฎต่างๆ และความเชื่อ ของลัทธินั้น ถูกเขียนขึ้นอย่างถูกต้อง ตามหลักกฎหมายสิทธิพลเมือง และสิทธิของคนกลุ่มน้อยอยู่แล้ว “เราอาจจะเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ แต่มันเป็นสิทธิที่จะทำได้ ซึ่งถ้ามีการล่วงละเมิดจากใครก็ตามถึงจุดยืนของเรา จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังแน่นอน”

    สำหรับข้อติติงจาก แฮกกิส การห้ามติดต่อกับญาติ หรือเพื่อน ผู้แสดงออกปฏิเสธความเชื่อของลัทธินั้น เดวิส บอกว่านั้นไม่ได้เป็นข้อห้าม หรือคำสั่ง แต่ทั้งหมดอยู่ที่ การตัดสินใจด้วยตัวเอง ของผู้ศรัทธาแต่ละคน

    ไซแอนโทโลจี เป็นศาสนาที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ยุค 1950 โดยนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ เอล รอน ฮับบาร์ด โดยมีแนวคิดในการฝึกฝนจิตใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน ตลอดการก่อตั้งลัทธิ ไซแอนโทโลจี ได้รับความสนใจจากผู้คนโดยเฉพาะเหล่าคนดัง และดาราในฮอลลีวูด จนสร้างความโด่งดังให้กับ ไซแอนโทโลจี เป็นอย่างมาก ที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ พระเอกหนุ่ม ทอม ครูซ ที่แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลัทธิความเชื่อแห่งนี้ไปแล้ว

    ในทางตรงกันข้าม หลักคิด และแนวทางปฏิบัติบางอย่าง ก็นำมาซึ่งเสียงวิจารณ์ที่รุนแรงอยู่บ่อยครั้ง โดยตลอดมา ไซแอนโทโลจี พยายามดำเนินทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เป็นความลับ เพื่อป้องกันการตกเป็นข่าว และการนินทาจากสื่อ และประชาชน

    นี่เป็นอีกครั้ง ที่ข้อมูลประเภทวงใน ของลัทธิสุดดังแห่งนี้ ได้ถูกนำเสนอออกมาจากสมาชิก หรือไม่ก็อดีตสมาชิก จากที่ก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งปี ที่วีดีโอเพื่อโปรโมตลัทธิของ สมาชิกคนดังหมายเลขหนึ่งอย่าง ทอม ครูซ ได้หลุดออกมาสู่สาธารณะชน ที่แน่นอนว่าถูกนินทา และนำไปล้อเลียนโดยรายการต่างๆ ในโทรทัศน์ของ อเมริกา อยู่พักใหญ่ๆ

    ความแตกต่างของข้อมูลจากทั้งพระเอกชื่อดัง และผู้กำกับรางวัลออสการ์ก็คือ หนึ่งเป็นข้อมูลด้านบวก ขณะที่อีกหนึ่งเป็นข้อมูลด้านเสียหาย อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดเมื่อมันหลุดออกมาถึงสื่อ ก็ดูจะกลายเป็นผลลบต่อ ไซแอนโทโลจี ด้วยกันทั้งคู่

    ขอขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


    .

    ตอบลบ
  3. ไซแอนโทโลจี” ประเด็นสำคัญ? “เคที โฮล์มส์” ฟ้องหย่า “ทอม ครูซ”


    การแยกทางของ “ทอม ครูซ” กับ “เคที โฮล์มส์” กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตกตะลึงให้กับวงการ เพราะก่อนหน้านี้ชีวิตคู่ที่ยืนยาวมานาน 5 ปี ของทั้งสองไม่ได้ส่อเค้าของปัญหาอะไรออกมาเลย จนเกิดความสงสัยไปทั่วว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ซึ่งเว็บไซต์ดังอ้างว่า ความเชื่อของลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ที่ฝ่ายชายนับถืออยู่อย่างเคร่งครัดนั่นเอง คือ สาเหตุของการแยกทางกัน

    โดยแหล่งข่าวของเว็บไซต์ขุดคุ้ยชีวิตคนดัง TMZ อ้างว่า เคที โฮล์มส์ ได้ตัดสินใจยื่นเอกสารของหย่าขาดกับ ทอม ครูซ ก็เพราะไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวของทั้งคู่ ซูริ ครูซ ต้องถูกผู้เป็นพ่อดึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเชื่อ และกิจกรรมของ ไซแอนโทโลจี ลัทธิความเชื่อ ที่สังคมยังคงเคลือบแคลงสงสัยมากเกินไปนั่นเอง

    ซึ่งแหล่งข่าวรายนี้อ้างว่า เคที ไม่เคยทุ่มเทและอุทิศตัวให้กับ ไซแอนโทโลจี อย่างเต็มที่ตามอย่างสามีแต่อย่างใด และระยะหลังคู่สามีภรรยาก็เริ่มมีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูก เพราะ ซูริ เริ่มมีอายุมากขึ้น ที่ ไซแอนโทโลจี จะเริ่มมีบทบาทกับชีวิตของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ไปด้วย

    การหย่ากันครั้งนี้ จึงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงินแน่นอน เพราะ เคที โฮล์มส ก็มีงาน และทรัพย์สินของตัวเองอยู่ไม่ใช่น้อย นอกจากนั้น ทั้งสองยังเคยเซ็นสัญญาเรื่องการแบ่งสินสมรสเอาไว้ก่อนจดทะเบียนแล้ว ประเด็นทางกฎหมายจากการหย่าขาดกันครั้งนี้ จึงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกเป็นส่วนใหญ่ เพราะฝ่ายเป็นผู้แม่ต้องการถือสิทธิ์การตัดสินใจเกี่ยวกับลูกสาว และไม่อยากให้ ทอม ครูซ มีส่วนในการควบคุมชีวิตของ ซูริ ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะที่จะเกี่ยวกับลัทธิความเชื่อของเขา

    เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว สำหรับความศรัทธาของ ทอม ครูซ ต่อ “ไซแอนโทโลจี” ระบบของความเชื่อ และการปฏิบัติตน ที่ถูกบัญญัติโดย แอล.รอน ฮับบาร์ด นักเขียนชาวอเมริกันเมื่อปี 1952 และถือเป็นหลักปรัชญาในการดำเนินชีวิต และบำเพ็ญตน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นลัทธิความเชื่อที่มีหลักคิด และหลักปฏิบัติค่อนข้างแปลกแตกต่าง จากสายตาของคนนอก

    ในตอนที่ ซูริ ลืมตาดูโลกก็มีข่าวลือว่า เคที โฮล์มส์ ต้องให้กำเนิดลูกสาว โดยไม่เปล่งเสียงร้องระบายความเจ็บปวดอะไรออกมาเลย เพื่อให้ลูกน้อยลืมตาดูโลกด้วยความ สงบสวยงาม มีสันติมากที่สุด

    เมื่ออายุเข้าสู่วัยเรียน พ่อแม่คนดังคู่นี้ก็จะเลือกส่งลูกไปเรียนกับสถานศึกษาของไซแอนโทโลจี ที่นำเสนอบทเรียนอันแตกต่าง แทนที่จะเป็นการเรียนอ่านเขียน ABC เหมือนกับเด็กในวัยเดียวกันทั่วๆ ไป เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กเล็กที่ “ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ถึงการจัดการกับความทรงจำในอดีต ที่อาจจะเป็นสิ่งกีดขวางต่อการเรียนรู้ และทำความเข้าใจในอนาคต”

    นิตยสาร People เป็นสื่อรายแรกที่ยืนยันการหย่าขาดของคู่รักคนดังคู่นี้ เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวระบุว่า ทอม ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย หลังข่าวกลายเป็นประเด็นใหญ่ในหน้าสื่อ เขาจึงออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างถึงที่สุด และร้องขอความเป็นส่วนตัวในการจัดการเรื่องกับเรื่องในครอบครัวครั้งนี้ต่อไป

    ไม่รอดอีกคู่"เคที โฮล์มส์"ขอหย่า"ทอม ครูส"แล้ว




    .

    ตอบลบ
  4. ไซแอนโตโลจีหักเตียงครูซ-โฮล์มส์


    ข่าวใหญ่ช็อกฮอลลีวู้ดเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนคือเรื่องการฟ้องหย่าของเคที โฮล์มส์ ชนิดที่ทอม ครูซ ดาราหญ่ายผู้สามีไม่ทันตั้งตัว ข่าวที่ตามมาคือความพยายามขุดคุ้ยว่าอะไรคือสาเหตุกันแน่ โดยจำเลยหลักคือลัทธิไซแอนโตโลจี ที่กระทั่งเจ้าพ่อสื่ออย่างรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ก็ขอเป็นกูรูกอสซิปฟันธงกับเขาด้วย
    เมอร์ด็อกทวีตเกี่ยวกับข่าวเตียงหักระหว่างคู่รักเทพนิยายฮอลลีวู้ดเมื่อวันอาทิตย์ว่า "ไซแอนโตโลจีกลับมาเป็นข่าวอีกแล้ว ลัทธิพิลึกพิลั่น แต่มีเงินก้อนใหญ่ก้อนโต พัวพันกับทอม ครูซ บุคคลสำคัญไม่ลำดับหนึ่งก็ลำดับสอง" ทวิตเตอร์ของเจ้าพ่อนิวส์คอร์ปกล่าวไว้
    เมอร์ด็อกทวีตตามมาอีก โดยแนะให้ผู้ติดตามทวิตเตอร์เขาเฝ้าจับตาข่าวคืบหน้าระหว่างโฮล์มส์กับไซแอนโตโลจี คนพวกนี้มีบางอย่างน่าขนลุก หรืออาจชั่วร้ายถ้าจะว่าไป ต่อมาเขายังเผยด้วยนับแต่ทวีตไปก็ถูกสาวกลัทธิโจมตีเป็นพัน และเชื่อว่าจะยิ่งมากขึ้นและเลวร้ายขึ้น อาจกระทั่งข่มขู่คุกคาม แต่เขายังยืนยันความคิดเดิม
    ครูซวัยใกล้ 50 โดนเมียสาววัย 33 ฟ้องหย่าต่อศาลนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ ขณะที่เขาถ่ายหนังอยู่ที่ไอซ์แลนด์ ข่าวบอกว่าดาราสาวที่โด่งดังจากละครวัยรุ่นน้ำเน่า "Dawson's Creek" เลือกฟ้องที่นิวยอร์กเพราะอยากเลี้ยงซูริ ลูกสาววัย 6 ขวบคนเดียว แต่ทนายของครูซเตรียมฟ้องแย้ง และจะขอให้ย้ายคดีไปแอลเอซึ่งศาลมีแนวโน้มจะให้พ่อแม่แบ่งกันดูแลลูก
    ทั้งคู่มีบ้านและเคยใช้ชีวิตคู่ที่แอลเอเป็นส่วนใหญ่ แต่พักหลังโฮล์มส์และซูริมักอยู่ที่นิวยอร์ก เว็บไซต์ทีเอ็มซีแฉด้วยว่า พวกปาปาราซซีที่ตามเก็บภาพแม่ลูกคู่นี้มาเนิ่นนานพบเห็นรถน่าสงสัย 2 คันที่เชื่อว่าน่าจะเป็นพวกที่คอยจับตาความเคลื่อนไหวของเธอ และไม่น่าจะเป็นนักข่าว แต่จะเป็นพวกสาวกแตกแถวของลัทธินี้หรือเปล่ายังพิสูจน์ไม่ได้ แต่โฆษกคริสตจักรไซแอนโตโลจีปฏิเสธว่าไม่ใช่
    สื่อหลายสำนักอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดโฮล์มส์ว่า เธอไม่พอใจที่ครูซเคร่งลัทธินี้เกินเหตุ และกลัวเขาจะพาซูริถลำลึกไปด้วย ครูซยังคอยบงการชีวิตเธอกระทั่งบังคับให้เธอใช้ชื่อ "เคต" แทนเคที และก้าวก่ายการเลือกรับเล่นหนังของเธอ ทั้งคู่ยังมีวิธีเลี้ยงลูกต่างกันสิ้นเชิงด้วย
    สถิติที่น่าแปลกคือครูซแต่งงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และถูกเมียทุกคนฟ้องหย่าตอนอายุ 33 เหมือนกัน ตั้งแต่มิมิ โรเจอร์ส, นิโคล คิดแมน และโฮล์มส์ ทั้งที่สถิติเป็นแบบนี้แต่ครูซน่าจะไม่รู้ตัวล่วงหน้าจริงๆ เพราะสองสัปดาห์ก่อนหน้าเขายังบอกว่ารักเมียคนนี้หนักหนา
    นอกจากเรื่องแย่งสิทธิเลี้ยงลูกแล้ว ยังต้องดูว่าโฮล์มส์จะได้ค่าเลี้ยงดูและสมบัติเท่าไหร่จากทรัพย์สินของครูซ ที่เชื่อว่ามีถึง 275 ล้านดอลลาร์.



    .

    ตอบลบ
  5. ปฏิบัติการตามรังควาน! "เคที่ โฮล์มส์"ผวา ลัทธิส่งสปายประกบติด



    เรื่องราวชักบานปลายไปกันใหญ่ ความคืบหน้ากรณี เคที่ โฮล์มส์ นักแสดงสาวฮอลลีวู้ด ยื่นศาลฟ้องหย่า ทอม ครูซ สามีนักแสดงคนดังเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งเหตุผลหลักๆ มีกระแสชี้ว่าเพราะเธอต้องการให้ ''ซูริ'' ลูกสาววัย 6 ขวบ ออกห่างจากลัทธิความเชื่อแบบ ''ไซเอนโทโลจี้'' ที่ผู้เป็นพ่อเลื่อมใสศรัทธาอย่างหนัก ล่าสุดมีข่าวจากฝั่งของ โฮล์มส์ อ้างว่า ช่วงก่อนที่เธอจะฟ้องอย่าไม่กี่วัน เธอมีความรู้สึกว่าตัวเองโดน ''สปาย'' จาก ไซเอนโทโลจี้ ติดตามพฤติกรรม!!

    โฮล์มส์ ฟ้องหย่า ครูซ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน ชนิดที่ว่ากันว่าทำเอาพระเอกคนดังตกตะลึงด้วยความคาดไม่ถึง ซึ่งต้นสายปลายเหตุนั้นว่ากันว่าหนึ่งในนั้นคือเธอไม่ต้องการให้ ซูริ เข้าลัทธิไซเอนโทโลจี้ ที่เธอคิดว่ามันไม่ชอบมาพากล และเห็นตัวอย่างจากสองลูกเลี้ยงอย่าง อิซาเบลล่า และ คอนเนอร์ ที่เหมือนจะตัดขาดความสัมพันธ์กับแม่บุญธรรมของพวกเขาอย่าง นิโคล คิดแมน ไปเลย

    ล่าสุดมีการแฉว่า ช่วงไม่กี่วันก่อนจะมีการฟ้องหย่านั้น ทางไซเอนโทโลจี้ ส่งสปาย 2 คน ไปติดตามดู โฮล์มส์ ที่บ้านพักของ ครูซ ในนิวยอร์ก จากนั้นพอ เคที่ พาลูกสาว ซูริ ย้ายไปอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์เช่าแถวๆ เชลซี ก็ยังปรากฏให้เห็นว่า ชาย 2 คนดังกล่าวก็อยู่แถวๆ นั้นด้วย โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ''ราว 3 วันก่อนจะมีการฟ้องหย่า มันมีรถเอสยูวีเมอร์เซเดส จอดอยู่นอกอะพาร์ตเมนต์ของ ทอม ที่กรีนิช วิลเลช''

    ''มีคนต้องสงสัยสองคนสวมแว่นกันแดดนั่งอยู่ห่างจากบ้านราวๆ 100 หลา แล้วพอ เคที่ ปรากฏตัวออกมา พวกเขาก็พยายามที่จะติดตามเธออย่างระมัดระวัง ที่แน่ๆ คือพวกเขาไม่ใช่นักข่าว หรือปาปาราซซี่ พวกเขาดูจะเป็นเหมือนพวกอดีตทหารหรือตำรวจ และพวกเขายังพกกล้องดิจิตอลตัวเล็กๆ ด้วย จากนั้นพอเรื่องราวออกมาว่า เคที่ ไปเช่าบ้านแถวๆ เชลซี พวกเขาก็ตามไปอยู่ที่นั่นด้วย'' แหล่งข่าวแฉเป็นชุด

    แน่นอนว่า เคที่ เชื่อเต็มขั้นเลยว่า ไซเอนโทโลจี้ ส่งสปายมาตามเธอ เพราะมองแล้วว่ามีแววจะแยกทางกับ ครูซ ซึ่งเรื่องนี้เคที่ก็รู้ตัว และแจ้งไปยังทีมรักษาความปลอดภัยของตัวเองให้ย้อนรอย ถ่ายภาพทั้ง 2 คนไว้ และโทร.แจ้งความไปยังตำรวจ แหล่งข่าวเสริมว่า ''ทีมรักษาความปลอดภัยของ เคที่ ปรากฏตัว และลงมือบันทึกภาพพวกนั้นไว้ จากนั้นก็มีการโทร.แจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงดิ่งไปถามพวกนั้นว่ามาทำอะไรถึงรถ''

    ที่สำคัญไม่ได้มีรถต้องสงสัยคันเดียว แต่ยังมีรถคาดิลแล็คเอสยูวีสีขาว ที่เชื่อว่าเป็นรถสายสืบที่ถูกส่งมาจับตาดู เคที่ วัย 33 ปีเช่นกัน โดยมันถูกพบว่าจอดอยู่ที่ป้ายเมล์ตรงข้ามทางเข้าอะพาร์ตเมนต์ ข้างในรถมีบุคคลต้องสงสัยเป็นชายวันกลางคน 4 คน และพอโดนถามว่ามาทำอะไร หนึ่งในนั้นตอบว่า ''เรามารอรับคนที่จะลงรถบัสป้ายนี้'' แล้วพอโดนบอกว่า พวกเขามาที่นี่หลายวันแล้ว คำตอบที่ได้คือ ''คนที่เรารอยังไม่มา''

    ส่วนชายอีก 2 คนถูกพบว่าเดินป้วนเปี้ยนแถวตัวตึกอะพาร์ตเมนต์ แถมถ่ายภาพด้วย จากนั้นมีรถสายตรวจตำรวจนิวยอร์กโผล่มาสมทบ บอกว่าได้รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับยานพาหนะต้องสงสัย และกำลังเช็กป้ายทะเบียนรถคาดิลแล็ค

    ทั้งนี้เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวแล้วว่า โฮล์มส์ ต้องการหย่า เพราะไม่อยากให้ ซูรี ถูกเลี้ยงดูแบบไซเอนโทโลจี้ และเลือกหอบลูกมา นิวยอร์ก ฟ้องศาลเมืองบิ๊ก แอปเปิล เพราะมีโอกาสชนะมากกว่าที่แคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่ง ไซเอนโทโลจี้ มีอิทธิพลสูง แหล่งข่าวกล่าวว่า ''เคที่ ต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อ ซูริ นี่เป็นเรื่องรุนแรงก็จริง แต่เธอก็มีความกล้าหาญมาก นี่คือสถานการณ์ที่น่ากลัวของ เคที่''

    ซูริ นั้นอายุครบ 6 ขวบแล้ว ถึงวัยที่ ไซเอนโทโลจี้ จะเข้ามามีบทบาททั้งเรื่องลัทธิความเชื่อทางศาสนาและการศึกษา และ เคที่ มั่นใจว่าเธอโดนสายสืบตามติด เพราะมีแววว่าเธอกับ ครูซ จะเตียงหัก โดยว่ากันว่า ลัทธิที่ก่อตั้งโดย แอล รอน ฮับบาร์ด นักเขียนนิยายไซ-ไฟวิทยาศาสตร์นี้จะตามรังควานชีวิตของสมาชิกที่ตีตนออกห่าง ขนาด ครูซ ยังเชื่อว่าเคยโดนตรวจสอบเช่นกัน หลังมีช่วงหนึ่งเขาห่างจากโบสถ์ไป

    ในส่วนของ เคที่ เธอโตมาในครอบครัวคาทอลิก และข่าวบอกว่าชาวเมืองโตเลโด้, โอไฮโอ บ้านเกิดของเธอดีใจมากที่เธอแยกทางกับ ทอม ครูซ และตัดขาดจาก ไซเอนโทโลจี้ แหล่งข่าววงในใกล้ชิดครอบครัวเธอกล่าวว่า ''เราดีใจมากเลยที่เธอจะกลับมาศรัทธาในคาทอลิกอีก เราเสียใจที่ เคที่ จะต้องเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียว แต่เรารู้ว่าเธอโดน ทอม ครอบงำ และไม่เชื่อใน ไซเอนโทโลจี้แบบเขา เธอถูกเลี้ยงมาแบบคาทอลิก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอต้องการเลี้ยงซูริแบบนั้นด้วย''

    ข่าวจาก : สยามดารา




    .

    ตอบลบ
  6. Hi there, after reading this awesome post i
    am also cheerful to share my knowledge here with mates.
    Feel free to surf my web blog - here

    ตอบลบ