จลาจลในอังกฤษลุกลามเข้าใจกลางกรุงลอนดอน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เหตุจลาจลในประเทศอังกฤษลุกลามขยายเข้าสู่ใจกลางกรุงลอนดอนและเมืองใหญ่หลายแห่ง ขณะที่ยังหาแรงจูงใจไม่แน่ชัด ว่าเป็นประเด็นสีผิว ปัญหาเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมเลียนแบบ มีรายงานประชาชนผู้ได้รับผลกระทบรวมตัวกันขัดขวางการก่อความไม่สงบในพื้นที่
จลาจลย่าน Hackney ในกรุงลอนดอน เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ส.ค.) โดยการจลาจลเกิดขึ้นในอังกฤษติดต่อกันมา 3 คืนแล้ว (ที่มา: Zaykoski/Flickr.com/CC)
เหตุจลาจลในประเทศอังกฤษลุกลามจากชานเมืองตอนเหนือของลอนดอนในเขตท็อตแนม (Tottenham) เข้าสู่ใจกลางกรุงลอนดอนและเมืองใหญ่หลายแห่ง ได้แก่ บริสทอล (Bristol), ลิเวอร์พูล (Liverpool), เบอร์มิงแฮม (Birmingham), แมนเชสเตอร์ (Manchester) และน็อตติงแฮม (Nottingham)
ขณะนี้นับเป็นวันที่สามแล้วที่เหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น โดยเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น มีกลุ่มวัยรุ่นและประชาชนเผาสถานีตำรวจ ทำลายรถยนต์ เข้าปล้นห้างสรรพสินค้าและร้านค้าก่อนเผาอาคารบ้านเรือนหลายแห่งก่อนการกระทำดังกล่าวแพร่ขยายวงกว้างเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองหลวง เช่น ย่านโซโห (Soho) อ็อกซ์ฟอร์ดเซอร์คัส (Oxford Circus) ในช่วงกลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ด (Scotland Yard) ระดมกำลังกว่า 1,700 นายเข้าประจำพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยและควบคุมไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย
มีการแถลงจากหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ดว่าขณะนี้ได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบในลอนดอนแล้วกว่า 334 ราย ในจำนวนนี้ 69 รายมีการตั้งข้อกล่าวหาแล้ว และในวันอังคารที่ 9 สิงหาคมมีการจับกุมและตั้งข้อหาผู้ก่อความไม่สงบจำนวน 3 ราย ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการขับรถทำร้ายร่างกายในเขตเบรนท์ (Brent) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าตำรวจได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบกว่า 100 รายในเมืองเบอร์มิงแฮม
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน (David Cameron)รีบกลับจากการพักผ่อนในประเทศอิตาลี และมีการประชุมหารือกับนายบอริส จอห์นสัน (Boris Johnson)นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนางเทเรซา เมย์ (Theresa May)และผู้รักษาการตำรวจนครบาลทิม กอดวิน (Tim Godwin)
จุดเริ่มต้นของการก่อจลาจลสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงนายมาร์ค ดักเกน (Mark Duggan) ชายผิวสีวัย 29 ปีเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีการยิงต่อสู้ระหว่างนายดักเกนและฝ่ายตำรวจหรือไม่ โดยมีการค้นพบปืนในที่เกิดเหตุหนึ่งกระบอก เจ้าหน้าที่ชันสูตรและนักวิทยาศาสตร์จากหน่วยนิติเวชศาสตร์ (Forensic Science Service) กำลังทำการตรวจสอบและพิสูจน์วิถีกระสุนว่าปืนดังกล่าวถูกใช้เป็นอาวุธหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบกระสุนยิงแล้วจำนวนสองนัด นัดหนึ่งถูกนายดักเกนเสียชีวิต อีกนัดพลาดไปโดนวิทยุของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง การเสียชีวิตดังกล่าวทำให้ผู้ที่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางจากฟาร์มบรอดวอเตอร์ (Broadwater Farm) มาชุมนุมหน้าสถานีตำรวจบนถนนไฮโรด (Tottenham High Road)
เวลาประมาณ 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงแสดงความรับผิดชอบโดยออกมาเจรจากับญาติผู้เสียชีวิตก่อนเวลา 21.00 น. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดออกมาทำตามข้อเรียกร้อง
ประมาณ 20.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มก่อเหตุจลาจลโดยการเผาทำลายสถานีตำรวจ ก่อนลุมลามไปยังบริเวณท็อตแนมเฮล (Tottenham Hale) และวูดกรีน (Wood Green)
มีการเดินประท้วงซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม กว่า 26 ปีที่แล้ว เหตุจลาจล (Broadwater Farm riot) ทำให้ตำรวจหนึ่งนายถูกแทงเสียชีวิต โดยเหตุจลาจลครั้งนั้นมีสาเหตุจากความไม่พอใจที่ชาวท้องถิ่นนางซินเทีย จาร์เร็ต (Cynthia Jarrett) หัวใจวายเสียชีวิตขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าตรวจค้นที่พักอาศัยของเธอ
อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธที่จะยอมรับว่าการเสียชีวิตของนายดักเกนเป็นเหตุผลอันชอบธรรมให้ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุจลาจล
ล่วงเข้าคืนวันอาทิตย์และเช้ามืดของวันจันทร์เหตุจลาจลได้ลามไปยังบริเวณอื่น ได้แก่ ชิงฟอร์ดเมาท์ (Chingford Mount), เอ็นฟิลด์(Enfield), อิสลิงตัน(Islington), บริกซ์ตัน (Brixton), อ็อกซฟอร์ด เซอร์คัส (Oxford Circus), พอนเดอร์ส์เอ็นด์ (Ponders End)และวอลทัมสโตว์ (Walthamstow)
กลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุปล้นและเผาห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในบริเวณแฮคนีย์ (Hackney), อีลลิ่ง (Ealing), แคมเด้น/ชอร์กฟาร์ม (Camden/Chalk Farm), แคลปเพิม (Clapham), เพ็กเคิม (Peckham),ลุยแชม (Lewisham) และครอยดอน (Croydon) โดยพื้นที่เกิดเหตุมีลักษณะกระจายตัวในเขตลอนดอนทั้งทางฝั่งเหนือและใต้ของแม่น้ำเทมส์ (Thames) แต่กระจุกตัวอยู่ทางใต้ของมหานครลอนดอนโดยเฉพาะเขตครอยดอนใต้
นอกจากการปล้นและเผาห้างสรรพสินค้า ร้านรวงและอาคารบ้านเรือนหลายแห่งแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังถูกทำร้ายร่างกายไม่ต่ำกว่า 26 คน บางรายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รถโดยสารประจำทางถูกเผา
มีรายงานว่าหญิงสูงอายุคนหนึ่งถูกผู้ก่อความไม่สงบลากลงรถจากรถก่อนเข้าทุบและเผารถยนต์ของเธอ เหตุจลาจลส่งผลให้ต้องปิดการเดินรถใต้ดินก่อนเปิดทำการใหม่ในวันอังคาร
ทั้งนี้ สำนักข่าว Croydon Guardian รายงานว่าชาวบ้านกว่า 20 คนรวมตัวกันขัดขวางการก่อความไม่สงบในพื้นที่คริสตัลพาเลซ (Crystal Palace) แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมีจำนวนมากกว่าชาวบ้านและตำรวจในพื้นี่
ประเด็นที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันคือสาเหตุของความไม่พอใจและระดับความรุนแรง ผู้ที่อาศัยในบริเวณที่เหตุจลาจลเริ่มต้นให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ เนื่องจากนายดักเกนเป็นคนผิวดำและผู้อาศัยในเขตท็อตแนมนั้นส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำเช่นกัน ในขณะที่ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวที่มักทำการตรวจค้นตัวคนผิวสีที่ตำรวจมักสงสัยว่าเป็นผู้ค้ายาและอาชญากร และพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ มีอัตราการว่างงานและอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง
ข้อเสนอนี้ได้รับการโต้แย้งจากทางตำรวจ แถลงการณ์ของตำรวจนครบาล (Metropolitan Police) อ้างว่าพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มชนผิวสี แต่ประกอบไปด้วยผู้คนและชุมชนหลากหลายเชื้อชาติ
อีกประเด็นคือเรื่องความขัดแย้งระหว่างตำรวจและกลุ่มวัยรุ่นโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องการเหยียดสีผิว ผู้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ให้เหตุผลว่าเพราะผู้ก่อความไม่สงบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ชาวผิวสีเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนผิวขาวเองด้วย ทั้งนี้ มีรายงานเช่นกันว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลไม่ได้มีแค่วัยรุ่น บางรายเป็นเด็กอายุเพียง 10 ปี ขณะที่บางรายเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
สิ่งที่ท้าทายทั้งสองมุมมองมากที่สุดคือการก่อเหตุจลาจลที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างนี้เป็นอาชญากรรมเลียนแบบ (copycat criminal activity) ที่ใช้ข้ออ้างเรื่องการเหยียดสีผิวและความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างตำรวจและผู้เยาว์เป็นฉากบังหน้าเพื่อทำการเข้าปล้นและตักตวงผลประโยชน์จากร้านค้าต่างๆ ทั้งที่ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงและผู้อาศัยในอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จุดชนวนความไม่พอใจให้ผู้ชุมนุมตั้งแต่แรก
จลาจลย่าน Hackney ในกรุงลอนดอน เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ส.ค.) โดยการจลาจลเกิดขึ้นในอังกฤษติดต่อกันมา 3 คืนแล้ว (ที่มา: Zaykoski/Flickr.com/CC)
เหตุจลาจลในประเทศอังกฤษลุกลามจากชานเมืองตอนเหนือของลอนดอนในเขตท็อตแนม (Tottenham) เข้าสู่ใจกลางกรุงลอนดอนและเมืองใหญ่หลายแห่ง ได้แก่ บริสทอล (Bristol), ลิเวอร์พูล (Liverpool), เบอร์มิงแฮม (Birmingham), แมนเชสเตอร์ (Manchester) และน็อตติงแฮม (Nottingham)
ขณะนี้นับเป็นวันที่สามแล้วที่เหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น โดยเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น มีกลุ่มวัยรุ่นและประชาชนเผาสถานีตำรวจ ทำลายรถยนต์ เข้าปล้นห้างสรรพสินค้าและร้านค้าก่อนเผาอาคารบ้านเรือนหลายแห่งก่อนการกระทำดังกล่าวแพร่ขยายวงกว้างเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองหลวง เช่น ย่านโซโห (Soho) อ็อกซ์ฟอร์ดเซอร์คัส (Oxford Circus) ในช่วงกลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ด (Scotland Yard) ระดมกำลังกว่า 1,700 นายเข้าประจำพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยและควบคุมไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย
มีการแถลงจากหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ดว่าขณะนี้ได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบในลอนดอนแล้วกว่า 334 ราย ในจำนวนนี้ 69 รายมีการตั้งข้อกล่าวหาแล้ว และในวันอังคารที่ 9 สิงหาคมมีการจับกุมและตั้งข้อหาผู้ก่อความไม่สงบจำนวน 3 ราย ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยการขับรถทำร้ายร่างกายในเขตเบรนท์ (Brent) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าตำรวจได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบกว่า 100 รายในเมืองเบอร์มิงแฮม
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน (David Cameron)รีบกลับจากการพักผ่อนในประเทศอิตาลี และมีการประชุมหารือกับนายบอริส จอห์นสัน (Boris Johnson)นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนางเทเรซา เมย์ (Theresa May)และผู้รักษาการตำรวจนครบาลทิม กอดวิน (Tim Godwin)
จุดเริ่มต้นของการก่อจลาจลสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงนายมาร์ค ดักเกน (Mark Duggan) ชายผิวสีวัย 29 ปีเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีการยิงต่อสู้ระหว่างนายดักเกนและฝ่ายตำรวจหรือไม่ โดยมีการค้นพบปืนในที่เกิดเหตุหนึ่งกระบอก เจ้าหน้าที่ชันสูตรและนักวิทยาศาสตร์จากหน่วยนิติเวชศาสตร์ (Forensic Science Service) กำลังทำการตรวจสอบและพิสูจน์วิถีกระสุนว่าปืนดังกล่าวถูกใช้เป็นอาวุธหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบกระสุนยิงแล้วจำนวนสองนัด นัดหนึ่งถูกนายดักเกนเสียชีวิต อีกนัดพลาดไปโดนวิทยุของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง การเสียชีวิตดังกล่าวทำให้ผู้ที่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางจากฟาร์มบรอดวอเตอร์ (Broadwater Farm) มาชุมนุมหน้าสถานีตำรวจบนถนนไฮโรด (Tottenham High Road)
เวลาประมาณ 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงแสดงความรับผิดชอบโดยออกมาเจรจากับญาติผู้เสียชีวิตก่อนเวลา 21.00 น. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดออกมาทำตามข้อเรียกร้อง
ประมาณ 20.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มก่อเหตุจลาจลโดยการเผาทำลายสถานีตำรวจ ก่อนลุมลามไปยังบริเวณท็อตแนมเฮล (Tottenham Hale) และวูดกรีน (Wood Green)
มีการเดินประท้วงซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม กว่า 26 ปีที่แล้ว เหตุจลาจล (Broadwater Farm riot) ทำให้ตำรวจหนึ่งนายถูกแทงเสียชีวิต โดยเหตุจลาจลครั้งนั้นมีสาเหตุจากความไม่พอใจที่ชาวท้องถิ่นนางซินเทีย จาร์เร็ต (Cynthia Jarrett) หัวใจวายเสียชีวิตขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าตรวจค้นที่พักอาศัยของเธอ
อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธที่จะยอมรับว่าการเสียชีวิตของนายดักเกนเป็นเหตุผลอันชอบธรรมให้ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุจลาจล
ล่วงเข้าคืนวันอาทิตย์และเช้ามืดของวันจันทร์เหตุจลาจลได้ลามไปยังบริเวณอื่น ได้แก่ ชิงฟอร์ดเมาท์ (Chingford Mount), เอ็นฟิลด์(Enfield), อิสลิงตัน(Islington), บริกซ์ตัน (Brixton), อ็อกซฟอร์ด เซอร์คัส (Oxford Circus), พอนเดอร์ส์เอ็นด์ (Ponders End)และวอลทัมสโตว์ (Walthamstow)
กลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุปล้นและเผาห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในบริเวณแฮคนีย์ (Hackney), อีลลิ่ง (Ealing), แคมเด้น/ชอร์กฟาร์ม (Camden/Chalk Farm), แคลปเพิม (Clapham), เพ็กเคิม (Peckham),ลุยแชม (Lewisham) และครอยดอน (Croydon) โดยพื้นที่เกิดเหตุมีลักษณะกระจายตัวในเขตลอนดอนทั้งทางฝั่งเหนือและใต้ของแม่น้ำเทมส์ (Thames) แต่กระจุกตัวอยู่ทางใต้ของมหานครลอนดอนโดยเฉพาะเขตครอยดอนใต้
นอกจากการปล้นและเผาห้างสรรพสินค้า ร้านรวงและอาคารบ้านเรือนหลายแห่งแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังถูกทำร้ายร่างกายไม่ต่ำกว่า 26 คน บางรายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รถโดยสารประจำทางถูกเผา
มีรายงานว่าหญิงสูงอายุคนหนึ่งถูกผู้ก่อความไม่สงบลากลงรถจากรถก่อนเข้าทุบและเผารถยนต์ของเธอ เหตุจลาจลส่งผลให้ต้องปิดการเดินรถใต้ดินก่อนเปิดทำการใหม่ในวันอังคาร
ทั้งนี้ สำนักข่าว Croydon Guardian รายงานว่าชาวบ้านกว่า 20 คนรวมตัวกันขัดขวางการก่อความไม่สงบในพื้นที่คริสตัลพาเลซ (Crystal Palace) แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมีจำนวนมากกว่าชาวบ้านและตำรวจในพื้นี่
ประเด็นที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันคือสาเหตุของความไม่พอใจและระดับความรุนแรง ผู้ที่อาศัยในบริเวณที่เหตุจลาจลเริ่มต้นให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ เนื่องจากนายดักเกนเป็นคนผิวดำและผู้อาศัยในเขตท็อตแนมนั้นส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำเช่นกัน ในขณะที่ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวที่มักทำการตรวจค้นตัวคนผิวสีที่ตำรวจมักสงสัยว่าเป็นผู้ค้ายาและอาชญากร และพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ มีอัตราการว่างงานและอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง
ข้อเสนอนี้ได้รับการโต้แย้งจากทางตำรวจ แถลงการณ์ของตำรวจนครบาล (Metropolitan Police) อ้างว่าพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มชนผิวสี แต่ประกอบไปด้วยผู้คนและชุมชนหลากหลายเชื้อชาติ
อีกประเด็นคือเรื่องความขัดแย้งระหว่างตำรวจและกลุ่มวัยรุ่นโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องการเหยียดสีผิว ผู้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ให้เหตุผลว่าเพราะผู้ก่อความไม่สงบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ชาวผิวสีเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนผิวขาวเองด้วย ทั้งนี้ มีรายงานเช่นกันว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลไม่ได้มีแค่วัยรุ่น บางรายเป็นเด็กอายุเพียง 10 ปี ขณะที่บางรายเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
สิ่งที่ท้าทายทั้งสองมุมมองมากที่สุดคือการก่อเหตุจลาจลที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างนี้เป็นอาชญากรรมเลียนแบบ (copycat criminal activity) ที่ใช้ข้ออ้างเรื่องการเหยียดสีผิวและความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างตำรวจและผู้เยาว์เป็นฉากบังหน้าเพื่อทำการเข้าปล้นและตักตวงผลประโยชน์จากร้านค้าต่างๆ ทั้งที่ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงและผู้อาศัยในอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จุดชนวนความไม่พอใจให้ผู้ชุมนุมตั้งแต่แรก
กต.แจ้งเตือนเหตุจลาจลในกรุงลอนดอน
ประกาศเตือนกรณีเหตุการณ์จลาจล ในสหราชอาณาจักร จากกระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์จลาจล และการชุมนุมประท้วงในบางพื้นที่ในกรุงลอนดอน และเหตุการณ์ได้ลุกลามไปยังเมืองแมนเชสเตอร์, ลิเวอร์พูล, บริสตอล และเบอร์มิงแฮม ในสหราชอาณาจักร นั้น
ทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอแจ้งเตือนประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางไปยังกรุงลอนดอน และเมืองที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวัง รวมถึงหลีกเลี่ยงสถานที่ ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและปฏิบัติ ตามคำแนะนำของทางการสหราชอาณาจักร อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ที่ www.thaiembassyuk.org.uk และหากประสบปัญหาขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หมายเลขโทรศัพท์ +44 79 1865 1720 (hotline) และ +44 20 7589 2944 (ฝ่ายกงสุล)
Link : http://www.innnews.co.th/กต-แจ้งเตือนเหตุจลาจลในกรุงลอนดอน--301433_04.html
ชาวลอนดอนสู้ผู้ก่อจลาจลตายแล้ว1สาหัส1
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์จลาจล และการชุมนุมประท้วงในบางพื้นที่ในกรุงลอนดอน และเหตุการณ์ได้ลุกลามไปยังเมืองแมนเชสเตอร์, ลิเวอร์พูล, บริสตอล และเบอร์มิงแฮม ในสหราชอาณาจักร นั้น
ทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอแจ้งเตือนประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางไปยังกรุงลอนดอน และเมืองที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความระมัดระวัง รวมถึงหลีกเลี่ยงสถานที่ ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและปฏิบัติ ตามคำแนะนำของทางการสหราชอาณาจักร อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ที่ www.thaiembassyuk.org.uk และหากประสบปัญหาขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หมายเลขโทรศัพท์ +44 79 1865 1720 (hotline) และ +44 20 7589 2944 (ฝ่ายกงสุล)
Link : http://www.innnews.co.th/กต-แจ้งเตือนเหตุจลาจลในกรุงลอนดอน--301433_04.html
ชาวลอนดอนสู้ผู้ก่อจลาจลตายแล้ว1สาหัส1
ตำรวจสันติบาลระบุว่า ชายวัย 26 ปี รายนี้ถูกยิงบาดเจ็บที่เขตครอยดอน ทางใต้ของกรุงลอนดอนเมื่อค่ำวันจันทร์
ในระหว่างที่ผู้ก่อจลาจลวางเพลิงเผาอาคารจำนวนมาก ตำรวจกำลังสอบสวนหาสาเหตุที่เขาถูกยิง ขณะเดียวกัน
ตำรวจจะพิจารณาเรื่องใช้กระบองปราบปรามผู้ก่อจลาจลตามที่มีเสียงเรียกร้องให้ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวขึ้น
นายไซมอน ฟอย ผู้บัญชาการตำรวจอังกฤษ เตือนว่า ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด จะถูกนำไปใช้นำตัวผู้ก่ออาชญากรรม
มาดำเนินคดี โดยตำรวจรายงานว่า มีชายวัย 26 ปี ถูกยิงในเขตครอยดอน โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ในตอนเกิดเหตุว่า
ผู้เคราะห์ร้ายกับเพื่อนสองคน มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับ กลุ่มคนอีก 9 คน ซึ่งผู้ตายถูกยิงในขณะขับรถไล่ตามคู่กรณี
และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล รวมถึงมีชาววัย 60 ปี ซึ่งถูกทำร้ายอาการสาหัส โดยกลุ่มผู้ก่อจลาจลเนื่องจากเขาพยายาม
จะดับไฟในถังขยะบนถนน
ทั้งนี้ ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุจลาจลในลอนดอนได้กว่า 563 คนแล้ว และจับอีก 138คน ที่เมืองเบอร์มิงแฮม รวมถึง
วัยรุ่นอายุ 18 ปี 2 คน ถูกจับกุมที่เคนท์ เขตรอบนองของกรุงลอนดอน ในฐานะผู้ต้องสงสัย ที่เขียนข้อความยุยง
ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
ด้าน ทางกระทรวงยุติธรรมระบุว่า ผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีภายใต้ขั้นตอนพิเศษและรวดเร็ว
โดยตำรวจสามารถนำตัวส่งฟ้องและขึ้นศาลได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
Link : http://www.innnews.co.th/ชาวลอนดอนสู้ผู้ก่อจลาจลตายแล้ว1สาหัส1--301447_04.html
อังกฤษส่งตร.กว่าหมื่นนายคุมจลาจลคืนนี้
ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 9 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 18:32 น.
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศว่า ในคืนนี้ (9 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ทางการ จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลราว 16,000 นาย เข้ารับมือกับกลุ่มผู้ก่อการจลาจล พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อฟื้นคืนความสงบให้กับอังกฤษ
ด้านคณะกรรมการคอบร้า ซึ่งเป็นหน่วยงานฉุกเฉินของรัฐบาลอังกฤษ ได้มีการประชุมร่วมกันแล้วในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางการรับมือเหตุการณ์ความวุ่นวาย ที่แพร่กระจายทั่วกรุงลอนดอน รวมถึง เบอร์มิงแฮม, ลิเวอร์พูล, นอตทิงแฮม และ บริสตอล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ ทำการจับกุมวัยรุ่นที่ก่อเหตุความวุ่นวายได้แล้วกว่า 400 คน และเรียกพฤติกรรมดังกล่าวว่า "อาชญากรรมเลียนแบบ" (copycat criminal activity)
Link : http://www.innnews.co.th/อังกฤษส่งตร-กว่าหมื่นนายคุมจลาจลคืนนี้--301415_04.html
กต.ยันคนไทยไม่ได้รับผลกระทบจลาจลแดนผู้ดี
สำนักข่าวเนชั่น : กต.ยืนยัน ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จลาจลในลอนดอน ระบุ สถานทูตไทยได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอังกฤษเลี่ยงการชุมนุม เหตุรุนแรง-ปล้นสะดมภ์ล่าสุดในดินแดนเมืองผู้ดีล่าสุดลามไปเมือง"ลิเวอร์พูล-เบอร์มิ่งแฮม"แล้ว ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ"เดวิด คาเมรอน" ได้ตัดสินใจลดวันพักร้อนระหว่างที่เดินทางพักผ่อนที่ประเทศอิตาลี กลับประเทศอังกฤษทันที
นายธานี กล่าวว่า ในบริเวณที่มีการชุมนุมดังกล่าว ไม่มีคนไทยพักอาศัยอยู่มากนัก แต่ก็ไม่ประมาท ซึ่งขณะยี้มีคนไทยในอังกฤษทั้งหมด ประมาณ 50,000 คน โดยคนไทยอยู่ในกรุงลอนดอน ประมาณ 10,000 คน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ได้เปิดโทรศัพท์สายด่วน เพื่อให้คนไทยที่นั้นและญาติที่เมืองไทยได้โทร.เข้าไปสอบถามข้อมูลและแจ้งความช่วยเหลือเพิ่มเติม ได้ที่ +44 791865 1720 และเบอร์ฝ่ายกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทย +44 207589 2944 นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ชุมชนไทยได้ประสานข่าวสารกับคนไทยในอังกฤษ เพื่อต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามเหตุรุนแรงและการปล้นสะดมภ์ในอังกฤษเป็นวันที่สาม ล่าสุดได้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ใหม่ ๆ ในกรุงลอนดอนของอังกฤษเมื่อวันจันทร์ รวมถึงเมืองใหญ่อันดับที่สอง ซึ่งร้านค้าหลายแห่งและรถยนต์หลายคันถูกจุดไฟเผา ขณะที่ทางการพยายามหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่ไร้ความควบคุม ที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 3
ซึ่งเหตุจลาจลที่เลวร้ายที่สุดของกรุงลอนดอน ในรอบหลายทศวรรษ ทำให้หลายพื้นที่เต็มไปด้วยอาคาร รถยนต์ และถังขยะที่ถูกจุดไฟเผาทำลาย ร้านค้าถูกปล้นสะดมภ์ ตำรวจถูกขว้างปาด้วย ขวดและดอกไม้ไฟ ขณะที่พวกวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ออกอาละวาดไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองหลวง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้พยายามควบคุมเพลิงที่กำลังลุกลามไปยังร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวหนึ่งที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ในย่านครอยดอน ทางใต้ของลอนดอน
ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตามบ้านใกล้เคียงต้องอพยพหนีเพลิงที่ลุกไหม้ ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของประเทศ พบว่า มีผู้ก่อเหตุหลายร้อยคน บุกเข้าไปตามร้านค้าในย่านค้าปลีกทำให้เหตุการณ์ความไม่สงบขยายตัวออกนอกกรุงลอนดอน เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงเมื่อคืนวันเสาร์
ส่วนพวกปล้นสะดมภ์ยังได้บุกโจมตีในย่านช็อปปิ้งชั้นสูง แคลปแฮม จังชั่น ซึ่งคับคั่งไปด้วยสถานีรถไฟที่มีคนใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่งของอีงกฤษ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์สกาย นิวส์ ว่า เห็นการปล้นสะดมภ์นานประมาณชั่วโมงครึ่ง โดยปราศจากการขัดขวางของตำรวจ และที่สำคัญคือ พวกที่ร่วมปล้นสะดมภ์และทุบทำลายหน้าต่าง มีเด็กอายุประมาณ 13 และ 14 ปี รวมอยู่ด้วย
นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ได้ลดเวลาการไปพักร้อนที่อิตาลีลง และจะเรียกประชุมคณะกรรมการแก้วิกฤติในรัฐบาล ในวันนี้ เพื่อหามาตรการที่แข็งกร้าวรับมือกับเหตุรุนแรงที่ขยายขึ้นเรื่อย ๆ เหตุการณ์รุนแรงนี้ ได้เริ่มที่เขตท็อตแน่ม ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน เมื่อวันเสาร์ หลังการประท้วงโดยสันติ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ตำรวจยิงชายคนหนึ่ง และเรื่องได้บานปลายกลาย เป็นความรุนแรง ทำให้พื้นที่หลายแห่งในย่านชั้นสูงถูกเผาและร้านค้าถูกปล้นสะดมภ์ มีบางคนเชื่อว่า เหตุที่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม ได้มาจากปัญหาการว่างงาน จากการที่นโยบายของรัฐบาลบไม่ได้รัดเข็มขัดของรัฐบาล สร้างความไม่พอใจให้คนทั่วประเทศ เนื่องจากจะนำไปสู่การตัดงบด้านการบริการสังคมและสวัสดิการต่าง ๆ ขณะที่ตำรวจ 1,700 นาย ที่ประจำการอยู่ทั่วกรุงลอนดอน ได้พยายามเข้าระงับเหตุแต่ไม่สำเร็จ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ร้องขอให้ตำรวจใช้สายดับเพลิงฉีดใส่ผู้ก่อเหตุ หรือไม่ก็ขอกำลังจากทหารมาช่วยระงับเหตุ
ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ในหลายพื้นที่ ระบุว่า ตำรวจรับมือกับสถานการณ์อย่างล่าช้า ในขณะที่ความรุนแรงได้ขยายตัวไปยังหลายชุมชน ทั้งทางตะวันออกและทางใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยสัมผัสกับความรุนแรงมาก่อน โดยพบว่า พวกวัยรุ่นพากันจุดไฟเผา และลักขโมยของในย่านหรูกันอย่างคึกคะนอง โดยพวกวัยรุ่นเหล่านี้ ที่เป็นกลุ่มย่อย ๆ ส่วนใหญ่คลุมศีรษะและใบหน้า ได้ใช้การส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ หรือ SMS , การส่งข้อความทางแบล็คเบอร์รี่ และใช้หน้าสังคมออนไลน์ เช่น ทวิตเตอร์ ในการประสานการโจมตีหรือลวงตำรวจให้หลงกล
แบล็คเบอร์รี่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าผลิตขึ้นมาเพื่อคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ แต่ปัจจุบันได้กลาย เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นอังกฤษ เพราะระบบให้บริการส่งข้อความฟรี และรวดเร็ว โดยริเสิร์ช อิน โมชั่น บริษัทผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี่ ได้ออกแถลงการณ์ว่า กำลังให้ความช่วยเหลือทางการอังกฤษตรวจสอบเรื่องนี้ และรู้สึกเห็นใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนตำรวจได้จับตาการเคลื่อนไหวทางทวิตเตอร์ และเตือนว่า คนที่โพสต์ข้อความปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง
จะถูกจับ
อย่างไรก็ตามผู้ก่อเหตุนับร้อยคน ได้เหิมเกริมเข้าทุบทำลายร้านค้าปลีก ในเบอร์มิงแฮม และยังปะทะกับตำรวจในลิเวอร์พูลและบริสตอล ส่วนพวกปล้นสะดมภ์ ได้บุกร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะกวาดทุกอย่างรวมทั้ง บุหรี่ ลูกกวาดและกระดาษชำระ ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า เป็นการลุกฮือของ ชนชั้นแรงงาน ทุกร้านเต็มไปด้วยพวกวัยรุ่น ที่มีช็อกโกแล็ตและไอศกรีมที่ขโมยมาอยู่ในมือ
ซึ่งเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บางคนบอกว่า เหตุรุนแรงครั้งนี้ เป็นผลมาจากความไม่พอใจของพวกวัยรุ่นที่มีต่อตำรวจ กรุงลอนดอน ก่อนจะนำไปสู่เหตุการณ์กลายเป็นสมรภูมิ ซึ่งตำรวจทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่ร่วมก่อเหตุมีจำนวนมาก ทำให้ตำรวจรับมือไม่ไหว แต่ประชาชนในท็อตแน่ม บอกว่า การปล้นสะดมภ์มาจากความคะนองของวัยรุ่น ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกต่อต้านตำรวจ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ต้นต้นที่แท้จริงมาจากการที่ตำรวจยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต
นางเธเรซ่า เมย์ รัฐมนตรีมหาดไทย และนายบอริส จอห์นสัน ผู้ว่าการรกรุงลอนดอน ต้องรีบกลับจากการพักร้อน เพื่อรับมือกับวิกฤติที่เกิดขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า ย่านที่เกิดความรุนแรงที่สุด คือ ท็อตแน่มและบริ๊กซ์ตัน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนยากจน และมีชุมชนคนผิวดำขนาดใหญ่ และเคยมีประวัติก่อความไม่สงบมาแล้ว
นันทิดา พวงทอง...สำนักข่าวเนชั่น twitter @nuntida_nna
ปิยรมณ์ : วิทยุเนชั่น โต๊ะข่าวต่างประเทศ
ขอบคุณภาพข่าว http://www.dailymail.co.uk
เกิดจลาจลในอังกฤษ หลังไม่พอใจตำรวจยิงพลเรือน
ตอบลบ(วันที่7 ส.ค. 54.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อังกฤษต้องส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าแก้ไขสถานการณ์การจลาจลของประชาชนราว 300 คน ที่ขยายตัวมากขึ้นในย่านทางเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อวาน หลังกลุ่มผู้ก่อจลาจลได้เผารถลาดตระเวนของตำรวจ 2 คัน รถบัส 2 ชั้น 1 คัน และร้านค้าอีก 1 ร้าน โดยมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ตำรวจไปยิงชายคนหนึ่ง
เหตุการณ์เผารถเกิดที่ด้านนอกสถานีตำรวจที่ไฮโร๊ด ซึ่งเป็นย่านที่มีผู้คนจอแจของเมืองท็อตแน่ม นอกจากนั้น ร้านค้าอีกหลายร้านก็ถูกทุบกระจก และมีการฉกฉวยเอาทรัพย์สินจากร้านค้าเหล่านี้ นอกจากนั้น กลุ่มผู้ก่อจลาจลก็ยังมีการส่งข้อความทางทวิตเตอร์ ระดมกำลังประชาชนให้ออกมาร่วมในการจลาจลมากขึ้นด้วย
สำหรับรถตำรวจที่ถูกเผานั้น จอดอยู่ห่างจากสถานีตำรวจราว 200 เมตร ประชาชนยึดเอารถไปได้ ระหว่างที่ตำรวจลงไปอำนวยความสะดวกให้กับการจราจร โดยกลุ่มผู้ก่อจลาจลได้ขว้างปาระเบิดขวดเข้าใส่รถตำรวจ หลังเกิดเหตุ มีการส่งกำลังตำรวจมายังพื้นที่ทางเหนือและใต้ของสถานีตำรวจเพื่อขับไล่ กลุ่มผู้ก่อจลาจล
การจลาจลเริ่มขึ้นหลังจากการเดินขบวนมาจากย่าน ” บรอดวอเตอร์ ฟาร์ม ” ของกลุ่มประชาชนราว 100 คน ผู้ไม่พอใจที่ผู้โดยสารรถแท็กซี่วัย 29 ปีคนหนึ่งถูกตำรวจของเมืองนี้ยิงตายเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่เขายิงปะทะกับตำรวจ งานนี้ ตำรวจเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
.
เหตุจลาจลในอังกฤษลุกลามไปยังหลายเมือง
ตอบลบจนถึงวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น จลาจลที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอนอังกฤษได้ขยายวงไปยังเมืองเบอร์มิงแฮม ลิเวอร์พูล น็อตติงแฮม และบริสตอล เป็นต้น
ที่กรุงลอนดอน รัฐบาลอังกฤษได้สั่งให้ตำรวจกว่า 16,000 คนออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามท้องถนน ห้ามตำรวจทั้งหมดลาพัก มีการระดมกำลังตำรวจจากทั่วประเทศไปยังสถานที่เกิดจลาจลอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าในกรุงลอนดอนพากันปิดร้าน บางพื้นที่มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตชุมชน จนถึงค่ำวันที่ 9 สิงหาคมนี้ มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 450 คน และ 69 คนถูกส่งฟ้อง
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งพักผ่อนที่อีตาลี่ รีบกลับกรุงลอนดอน และเรียกเปิดประชุมด่วนเพื่อพิจารณามาตรการรับมือกับสถานการณ์นี้
.
ยังไม่พบคนไทยเจ็บเหตุจลาจลแดนผู้ดี
ตอบลบ"บัวแก้ว" เผยไม่พบคนไทยได้รับผลกระทบ เหตุก่อจลาจลในกรุงลอนดอน
วันนี้( 9 ส.ค.) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุจลาจลในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ได้รายงานว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่จำกัดทางตอนเหนือของเมือง จึงยังไม่ส่งผลกระทบในภาพรวม และยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบ แต่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้ขอความร่วมมือคนไทยทุกกลุ่มให้ช่วยแจ้งสถานะอย่างต่อเนื่องต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ รวมถึงแจ้งไปยังชุมชนไทยในอังกฤษได้รับทราบสถานการณ์และเตือนให้ระมัดระวัง อย่าเดินทางไปในพื้นที่ หรือเข้าร่วมในเหตุจลาจล สำหรับประเทศอังกฤษมีคนไทยอาศัยอยู่ประมาณ 5 หมื่นคน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ออกหนังสือแจ้งเตือนคนไทยที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ถ้าใครมีญาติที่อยู่ในกรุงลอนดอน สามารถติดต่อเบอร์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ +4479 1865 1720 และ +4420 7589 2944 หรือติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตไทยในอังกฤษ http://www.thaiembassyuk.org.uk/.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
.
จลาจลอังกฤษบานปลาย ลามไปถึง'แมนเชสเตอร์' ตร.คุมเข้มกรุงลอนดอน หวังยุติเหตุวุ่นวายให้เร็ว
ตอบลบเหตุจลาจลในอังกฤษ ลามไปหลายเมืองแล้ว ล่าสุด "เมืองแมนเชสเตอร์" เจอดีแล้ว ขณะที่ในกรุงลอนดอน มีตร.อังกฤษราว 1.6 หมื่นนายกระจายกันไปตามถนนหลายสาย เพื่อยุติเหตุวุ่นวายที่เลวร้ายที่สุด ร้านค้าปิดร้านเร็วขึ้น
เหตุจลาจลที่ลุกลามไปทั่วพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของอังกฤษ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 4 แล้วโดยเป็นแรงผลักดันจากฝูงชนที่ส่วนใหญ่เป็นพวกวัยรุ่น ผู้คนที่หลากหลายและยากจน ทำให้เกิดภาพอันน่าสะเทือนขวัญ ของร้านค้าที่ถูกทุบทำลายและปล้นสะดมภ์ รถยนต์ถูกเผาและอาคารไหม้เกรียม สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอังกฤษส่วนใหญ่ ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงปี "กรุงลอนดอน" เมืองหลวงของพวกเขา กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อน ทำให้มีการเรียกร้องให้ทางการบังคับใช้กฎหมายกับพวกที่ก่อความรุนแรงให้หนักข้อยิ่งขึ้น
"สก็อตแลนด์ยาร์ด" ได้สั่งการให้ตำรวจใช้กำลังทุกอย่างเข้าจัดการกับผู้ประท้วง ที่รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะใช้กระสุนพลาสติก
โดยนายกรัฐมนตรี "เดวิด คาเมรอน" ซึ่งกลับจากพักร้อนที่อิตาลีเร็วกว่ากำหนด ได้สั่งให้วางกำลังตำรวจ 16,000 นาย ในลอนดอน ที่เรียกได้ว่ามากที่สุดสำหรับการประจำกำลังตำรวจในสถานที่เดียว หลังจากสก็อตแลนด์ยาร์ด บรรยายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอังกฤษ
นายคาเมรอน กล่าวที่บ้านพักที่ถนนดาวนิ่งว่า จะเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดอภิปรายปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้น เขาได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงที่มีชื่อว่า " คอบร้า " เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้กระสุนพลาสติก หัวฉีดน้ำแรงดันสูง และยุทธวิธีอื่น ๆ มาจัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ
เหตุจลาจลของอังกฤษ ลามถึงเมืองแมนเชสเตอร์แล้ว
ล่าสุด เมืองแมนเชสเตอร์ ต้องเผชิญกับการประท้วงที่หนักที่สุด มีวัยรุ่นหลายร้อยคน ได้ปะทะกับตำรวจในเมืองแมนเชสเตอร์ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพจากสถานีโทรทัศน์สกาย นิวส์ ได้แสดงให้เห็นตำรวจปราบจลาจล วางกำลังอยู่บนถนนสายหนึ่ง ขณะที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ปีนผ่านกระจกที่ถูกทุบทำลายเข้าไปตรวจภายในอาคารหลังหนึ่ง ส่วนที่ย่านเซาท์ธอล ของกรุงลอนดอน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายร้อนคน ยืนเฝ้าวัดซิกห์ ส่วนในแถบมิดแลนด์ส ของเมืองเบอร์มิงแฮม พบว่า ตำรวจกำลังปิดล้อมกลุ่มวัยรุ่นอยู่นอกร้านค้าแห่งหนึ่ง และตำรวจในเมืองน็อตติ้งแฮม กล่าวว่า กลุ่มผู้ชายราว 30-40 คน ได้ขว้างระเบิดเพลิงเข้าใส่สถานีตำรวจ และมีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมไปแล้วหลายคน
"แกร์รี่ เชวาน" ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของอังกฤษ เปิดเผยว่า การจลาจลและการปล้นสะดมในเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นการก่อความรุนแรงและก่ออาชญากรรมที่ไร้สามัญสำนึก และไม่เคยเห็นเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้มาก่อนในรอบ 30 ปี ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของคนที่ไม่ได้มีอะไรให้ต้องประท้วง แต่ได้สร้างความน่าอับอายไว้บนถนนสายต่างๆ การกระทำอันป่าเถื่อนของวัยรุ่นหลายร้อยคน ที่บุกเข้าปล้นสะดม จุดไฟเผาร้านค้า และขว้างปาตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ถือเป็นอาชญากรรมโดยสิ้นเชิง
ส่วนนายแพ็ท คาร์นีย์ สมาชิกสภานครแมนเชสเตอร์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง
.
จลาจลอังกฤษวันที่ 4 เดือดหนัก ตายแล้ว 1
ตอบลบจลาจลอังกฤษวันที่ 4 เดือดหนัก ตายแล้ว 1 ลามหลายเมืองคุมไม่ได้ ร้านค้าไทยโดนปล้นด้วย นายกฯ สั่ง จนท. จัดการเด็ดขาด
10 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า การจลาจลที่ประเทศอังกฤษยังคงลุกลามต่อไปเป็นวันที่ 4 ตำรวยังคงไม่สามารถควบคุมเหตุจลาจลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีได้ และยังลามไปถึงเมืองอื่นๆอีก
ทั้งนี้ กลุ่มวัยรุ่นได้ก่อเหตุเป็นคืนที่ 4 มีการเผารถยนต์และปล้นสะดมในเมืองวูลฟ์แฮมป์ตัน ด้านเมืองแมนเชสเตอร์มีรายงานว่ากลุ่มวัยรุ่นราว 20 คนทุบทำลายรถตำรวจก่อนสลายตัวไปขณะที่กรุงลอนดอนยังไม่มีรายงานเหตุรุนแรง เนื่องมามีตำรวจกระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยถึง 16,000 นาย
ขณะเดียวกัน ผลกระทบจากการก่อจลาจลดังกล่าวยังทำให้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาลที่จะเริ่มในสุดสัปดาห์นี้ ที่อาจต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป นอกจานี้ยังมีรายงานว่า ร้านค้า อาคารต่างๆที่ถูกปล้นและเผาเป็นจำนวนมาก มีร้านของคนไทยโดนปล้นในครั้งนี้ด้วย โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากเหตุจลาจล 4 วัน
อย่างไรก็ตาม นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของประเทศ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้กฏหมายเด็ดขาดกับผู้ก่อเหตุจลาจล ซึ่งตำรวจเตรียมใช้กระสุนยางในการสลายชุมนุม
ส่วน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง การติดตามและประสานงานกับคนไทย ที่อยู่ในกรุงลอนดอน ว่า ยังมีการประสานงานกันต่อเนื่อง และได้เตือนผู้ที่จะเดินทางไป ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว โดยได้ประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นช่องทางติดต่อไว้ให้แล้ว คือ 44-79-18-651720 และติดตามข่าวสารได้จากหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งความเสียหายนั้น มีร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง ในกรุงลอนดอน ที่ได้รับความเสียหาย แต่พื้นที่ ที่เกิดปัญหา มีคนไทยไม่มาก
อนึ่ง เฉพาะในกรุงลอนดอน มีคนไทยประมาณ 10,000 คน จากทั้งหมด 50,000 คน ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เบื้องต้น อังกฤษ ประเมินปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะมีวัตถุประสงค์ด้านการเมือง แต่อาจเป็นการสะท้อนปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ ที่กลายพันธุ์ออกมาเป็นความรุนแรง
.
จลาจลอังกฤษลามถึงลิเวอร์พูล-เบอร์มิงแฮม
ตอบลบเหตุการณ์จลาจลที่ประเทศอังกฤษ ลุกลามไปยังเมืองลิเวอร์พูล และ เบอร์มิงแฮม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้กว่า 87 คน
เหตุการณ์จลาจลทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน เริ่มมีท่าทีขยายวงกว้างมากขึ้นทุกที รายงานล่าสุด เผยว่าในตอนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมที่แสดงความไม่พอใจ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ลุกลามไปยังเมืองลิเวอร์พูล และ เบอร์มิงแฮม ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ
เหตุการณ์ในเมืองลิเวอร์พูล และ เบอร์มิงแฮม เกิดขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมกลุ่มวัยรุ่น ที่เผาอาคาร รถยนต์ ทำลายทรัพย์สินของประชาชน และ ขโมยทรัพย์สินในร้านค้าต่างๆ ได้ถึง 87 คน
ขณะเดียวกัน ได้มีรายงานว่า กลุ่มวัยรุ่นในเมืองเบอร์มิงแฮมได้บุกเผาสถานีตำรวจ ส่วนที่เมืองลิเวอร์พูล รถยนต์หลายคันถูกกลุ่มวัยรุ่นเผาได้รับความเสียหาย
สำหรับต้นเหตุของการก่อการจลาจลเกิดขึ้นเมื่อ มาร์ก ดัคแกน ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าจับกุมตัว บนรถแท็กซี่ ก่อนที่จะมีรายงานว่า ดัคแกน ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะเกิดการต่อสู้และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิง นาย มาร์ก ดัคแกน เสียชีวิต และทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีรอยกระสุนปืนบนวิทยุสื่อสาร ทำให้มีการสันนิษฐานว่า รอยกระสุนมาจากอาวุธปืนของผู้ตาย
หลังจากนั้น ได้มีผลการสอบสวนระบุว่า รอยกระสุนปืนดังกล่าวเกิดจากระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดขึ้นในช่วงที่ทำการจับกุมตัว นายมาร์ก ดัคแกน นั่นเอง
.
นายกฯอังกฤษจะหารือวิกฤติจลาจลวันนี้
ตอบลบลอนดอน 9 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ จะหารือเหตุวิกฤติในวันนี้หลังเกิดเหตุจลาจลต่อเนื่องมาตั้งแต่คืนวันเสาร์เมื่อกลุ่มวัยรุ่นสวมหน้ากากและใส่เสื้อมีหมวกคลุมศีรษะออกปล้นทำลายร้านค้า วางเพลิงตามย่านต่าง ๆ ในกรุงลอนดอนและได้ลุกลามไปอีก 3 เมือง
นายกรัฐมนตรีคาเมรอนยกเลิกการพักผ่อนที่อิตาลีแล้วเร่งเดินทางกลับทันทีเมื่อวานนี้ เขาจะเป็นประธานการประชุมคอบรา คณะกรรมการจัดการวิกฤติของรัฐบาลในเวลา 09.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 15.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุรุนแรงลุกลามและหาสาเหตุที่ทำให้เหตุจลาจลแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว นักวิจารณ์บางคนโทษว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลตัดลดสวัสดิการสังคมภายใต้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณมหาศาล ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนว่างงานสูง
ชาวเมืองในย่านต่าง ๆ ทั่วกรุงลอนดอนจะต้องทำความสะอาดเมืองขนานใหญ่เพราะเต็มไปด้วยเศษกระจกอิฐหินขวดและอาคารที่ถูกบุกทำลาย ขณะที่ตำรวจได้เสริมกำลังจนสามารถยึดถนนคืนจากกลุ่มวัยรุ่นได้แล้ว ขณะนี้เหตุจลาจลได้ลุกลามไปยังเมืองบริสทอลทางตะวันตกเฉียงใต้ เมืองเบอร์มิงแฮมทางตอนกลางและเมืองลิเวอร์พูลทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตำรวจเผยว่า จับกุมผู้ก่อเหตุในลอนดอนได้ 334 คน และอีก 100 คนในเบอร์มิงแฮม.
-สำนักข่าวไทย