โรวัน เซบัสเตียน แอตคินสัน (อังกฤษ: Rowan Sebastian Atkinson) (เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1955) เป็นนักแสดงบทตลก ชาว อังกฤษ และเป็นนักเขียนบทละครที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันในบทบาท มิสเตอร์บีน Mr. Bean ซึ่งเป็นละครตลกทางโทรทัศน์ในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ ค.ศ. 1990 และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
แอตคินสัน จบปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล แล้วศึกษาต่อที่ควีนส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระหว่างศึกษาปริญญาโทนี้ เขาได้ร่วมชมรมการแสดงของมหาวิทยาลัย และได้พบกับริชาด เคอร์ทิส และร็อบบิน ดริสคอล ซึ่งได้ร่วมงานสร้าง มิสเตอร์บีน ในเวลาต่อมา
แอตคินสัน เข้าสู่วงการแสดงในปี ค.ศ. 1983 จากบทตัวประกอบในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ตอน พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ เป็นภาพยนตร์เจมส์บอนด์อย่างไม่เป็นทางการ ที่นำแสดงโดย ฌอน คอนเนอรี่
ประวัติ
มิสเตอร์บีน หรือ โรแวน เซบาสเตียน แอ็ตคินสัน เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1955 เขาเป็นหนุ่มอังกฤษที่เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่อบอุ่นในแถบคอนเซตท์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเดอร์แฮม ครบถ้วนด้วยพ่อคือ อีริค และแม่คือ นางแอลลา เมย์ แอ็ตคินสัน นอกจากนี้เขายังมีพี่น้องผู้ชายอีก 2คนคือ รูเพิร์ต และรอดนีย์ แอ็ตคินสัน แม้ว่าโรแวนจะเกิดมาในครอบครัวของชาวนา แต่พ่อแม่ของเขาก็สนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วัยเยาว์ โรแวนได้เข้าเรียนที่โรงเรียนโบสถ์ในเมืองเดอร์แฮม จากนั้นก็ไปต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนเซนต์บีส์ และเข้า ศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ซึ่งถือเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของอังกฤษ เมื่อจบปริญญาตรีมาแล้วเขาก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ควีนส์ คอลเลจ ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้แววการเป็นนักแสดงตลกของโรแวนฉายออกมา จากการที่เขาได้เขียนบทละครและแสดงในงานของมหาวิทยาลัย (Oxford University Dramatic Society) รวมถึงละครชุดและชมรมละคร ซึ่งทำให้เขาได้รู้จักกับ ริชาร์ด เคอร์ทิส นักเขียนชื่อดังและนักแต่ง โฮเวิร์ด กูดอลล์ ซึ่งเขาก็ยังได้ติดต่อกันเรื่อยมา จนเมื่อเขาจบการศึกษามาแล้ว ใช่ว่าเขาจะนำความรู้ที่ได้เรียนมาเป็นเส้นทางหลักในการทำงาน หากแต่เขาได้ใช้ความรักในศิลปการแสดงจากภายในที่เขามี มาประยุกต์ใช้จนได้เดินไปในทางที่เขารัก ซึ่งงานแรกที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักคือ งานแสดงศิลปะโลกเทศกาล อีดินเบิร์ก ฟรินช์ ในปี ซึ่งเขาได้เริ่มการแสดงในแนวที่เขาถนัดคือแนวตลกอย่างเต็มตัว
โรแวนเป็นหนุ่มที่มองโลกในแง่ดี และตั้งแต่เด็กมานั้นเขาเป็นคนที่พูดติดอ่างมาโดยตลอด แต่อาการดังกล่าวก็หาได้เป็นปมด้อยของเขาไม่ เมื่อเขาโตขึ้น อาการติดอ่างก็ลดลงจนไม่ถือเป็นปัญหาสำหรับโรแวนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่เขารู้สึกเครียดหรืออยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ก็จะทำให้เขาติดอ่างขึ้นมาได้อีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องออกเสียงในตัวอักษร บี (B) ซึ่งนี่ยังเป็นปัญหาของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็จะหาทางแก้ปัญหาหรือเอาชนะปัญหานั้นอย่างชาญฉลาด โดยจะออกเสียงคำนั้นๆ อย่างชัดเจน และเน้นจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำให้คนทั่วไปติดภาพความเป็นตัวตนของ โรแวน แอ็ตคินสัน นี่เองที่เป็นจุดสร้างความฮาให้กับคนทั่วไปได้อย่างมาก และก่อนที่เขาจะทำการแสดง เขาก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการออกเสียงอย่างมาก โดยจะมีการเขียนสคริปท์เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ และลดปัญหาการออกเสียงผิดๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับโรแวน จนวันนี้ ลักษณะของ มิสเตอร์บีนโดยโรแวน แอ็ตคินสันนั้น ก็ได้สร้างความคุ้นเคยให้คนทั่วไปได้รู้จักและรักเขาเสมือนตลกสมัยก่อน ชาร์ลี แชปลิน นอกจากนี้โรแวนยังได้รับฉายาว่าเป็นตลกหน้าย้วย เพราะหากดูให้ดี การแสดงที่เขาได้ถ่ายทอดออกมานั้นจะไม่เน้นบทสนทนาเป็นหลัก แต่จะสื่อออกมาในรูปแบบของหน้าตาที่ปรับเปลี่ยนไปมาของเขา ที่ทำให้ดูตลกได้ไม่ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร
จากพรสวรรค์ที่มีในตัวของโรแวน ในปี 1978 เขาได้รับการเสนอให้ทำละครชุดเรื่อง “Not the Nine O’Clock News” ซึ่งอำนวยการสร้างโดย จอห์น ลอยด์ ส่วนตัวเขาเองนั้นก็รับหน้าที่ถนัดในส่วนของการเขียนบทละคร และร่วมแสดงกับพาเมล่า สตีเฟนสัน, กริฟฟ์ รีส จอห์น และ เมล สมิธ ความสำเร็จของ Not the Nine O’Clock News นั้นทำให้เขาได้รับงานต่อเนื่อง ในปี 1983 เขาก็ได้รับงานเรื่องต่อมาคือ “Black Adder” ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ได้ทำหน้าที่การเขียนบทเช่นเคย แต่ในครั้งนี้เขาได้ทำงานร่วมกับ ริชาร์ด เคอร์ทิส ผู้ที่เขาได้รู้จักมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ และแม้เรื่อง Black Adder จะเป็นละครชุดเรื่องใหม่ แต่ก็สามารถเรียกความนิยมได้เป็นอย่างดี จนทำให้ได้รับการแต่งภาค 2-4 ตามออกมาอย่างต่อเนื่องใน ทั้ง Black Adder the Third และ Black Adder Goes Forth ซึ่งละครชุดดังกล่าวก็ได้สร้างกระแสความนิยม และถือเป็นการประสพความสำเร็จอย่างมากของช่อง BBC ในปี 1980
นอกจากนี้ในส่วนของละครที่เป็นที่นิยมอย่างมากอีกเรื่องหนึ่ง ที่เรียกเสียงตอบรับจากผู้ชมทั่วโลกคือ “Mr. Bean” ซึ่งในช่วงแรกนั้น Mr. Bean ได้รับผลิตการออกมาชิมลางก่อนเพียงครึ่งชั่วโมง ในช่อง Thames และแน่นอนว่าความนิยมในตัวละครเรื่องMr. Bean นั้นก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ละครขำฮาดังกล่าวถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1997 เรื่อง Mr. Bean นี้ก็ได้รับความร่วมมือจากดารานำแสดงจากเรื่อง Not the Nine O’Clock คือ เมล สมิธ และเรื่องนี้เองที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลจนทำให้โรแวน แอ็ตคินสันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ค่าตอบแทนที่ได้มาอย่างมากมายนั้นก็ทำให้เขาสามารถนำเงินไปซื้อสิ่งที่เขารักได้ นั่นคือรถยนต์ McLaren F1 ต่อมา ได้มีการดึงไอเดียจากเรื่อง Mr. Bean มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และแน่นอนว่า Mr. Bean ได้รับการตอบรับอย่างดีจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปี 2006 ซึ่งโรแวนเองได้กล่าวว่านี่อาจจะถึงจุดอิ่มตัวแล้วสำหรับเขาในการที่จะสวมบท Mr. Bean ด้วยอายุของเขาเองที่มากขึ้นและ Mr. Bean เองก็น่าจะหยุดเพื่อที่จะอยู่ในความทรงจำที่น่าประทับใจเพียงเท่านี้
โรแวน แอ็ตคินสันนั้นขึ้นทำเนียบ 50 ดาราฮาระเบิดในเกาะอังกฤษในปี 2003 และต่อมาในปี 2005 โพลก็ได้โหวตเขาขึ้นมาจากดาราตลก 50 คนให้เขากลายเป็นดาราตลกที่สร้างความฮาได้มากที่สุด และจากความตลกที่มีในสายเลือดของเขา ทำให้เขาได้รับการทาบทามให้ถ่ายโฆษณาจากสินค้าและสื่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฮิตาชิ, ฟูจิฟิล์ม และโครงการบริจาคเลือด
โรแวนนั้นถือเป็นดาราที่ร่ำรวยคนหนึ่ง ประเมินกันว่าเขามีเงินถึง 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ซึ่งถ้าถามว่าร่ำรวยขนาดนี้ เขาเอาเงินไปซื้อหาความสุขเข้าตัวด้วยการซื้ออะไร ก็ต้องบอกเลยว่าโรแวนชอบการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ โดยเมื่อเขายังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ที่ฟาร์มของบ้านเขานั้น เขามักจะขับรถมอรร์ริส ไมเนอร์ของแม่วนไปรอบโรงนาเสมือนหนึ่งเป็นรถไถ และใช่ว่าเขาจะขับเป็นเฉพาะรถทั่วไป สำหรับโรแวนแล้ว เมื่อต้องการที่จะรู้เรื่องอะไรก็ตาม เขาต้องรู้ให้ซึ้ง และสามารถเข้าถึงได้ทุกเรื่องที่เขารัก เรื่องรถก็เช่นกัน เขาสามารถขับรถได้แทบทุกประเภท รวมถึงรถใหญ่ซึ่งเขาก็ได้ใบอนุญาตขับรถใหญ่มาแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ด้วยความที่เขาเป็นคนที่สนใจเรื่องรถเป็นอย่างมาก เขายังได้ใช้ความสามารถในการรักการเขียนของเขาไปเขียนบทความให้กับหนังสือชื่อดังเกี่ยวกับรถของอังกฤษ ชื่อ Car and Evo Magazine
นอกจากโรแวนจะเป็นคนที่ชอบรถแล้ว เขายังชอบแข่งรถอีกด้วย และถึงแม้เขาจะไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปแข่งรถตามที่ใจเขารักบ่อยนัก แต่เขาก็นำความอยากเป็นนักแข่งมาใส่ตัวตนของเขา และเสนอออกมาในรูปแบบของการเล่นละครได้ในที่สุด ซึ่งมันก็สามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ในปี 1995 เขาได้สวมบทบาทของนักแข่งรถชื่อดังเฮนรี่ เบอร์กิน ในการแสดงละครทางโทรทัศน์เรื่อง “Trottle” พร้อมกันนี้โรแวนก็ได้สะสมรถไว้หลายรูปแบบ เริ่มที่แอสตัน มาร์ติน วี 8 ซึ่งเป็นรถคันแรกของเขาซึ่งเขาได้ใช้เงินก้อนแรกจากการเป็นนักแสดงซื้อมา เพราะติดใจในรูปแบบของของรถ เนื่องจากเขาได้ใช้รถดังกล่าวในการแสดง และรู้สึกชอบอย่างมาก จึงได้ซื้อมาเก็บไว้เป็นของส่วนตัว ต่อด้วยแอสตัน มาร์ติน 8 ซากาโต้, รถยนต์ออดี้ A 8 ซึ่งถือเป็นรถที่ใช้สำหรับครอบครัว และยังมีรถอื่นๆ อีกหลายคัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นรถแข่งมากกว่ารถขับทั่วไป แต่รถที่โรแวนไม่ซื้อเลยคือรถปอร์เช่ เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่า ถึงแม้ว่าปอร์เช่จะเป็นรถที่วิเศษที่สุด แต่เขาก็รู้ว่าเขาเข้ากับมันไม่ได้
โรแวนเป็นหนุ่มที่มองโลกในแง่ดี และตั้งแต่เด็กมานั้นเขาเป็นคนที่พูดติดอ่างมาโดยตลอด แต่อาการดังกล่าวก็หาได้เป็นปมด้อยของเขาไม่ เมื่อเขาโตขึ้น อาการติดอ่างก็ลดลงจนไม่ถือเป็นปัญหาสำหรับโรแวนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่เขารู้สึกเครียดหรืออยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ก็จะทำให้เขาติดอ่างขึ้นมาได้อีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องออกเสียงในตัวอักษร บี (B) ซึ่งนี่ยังเป็นปัญหาของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็จะหาทางแก้ปัญหาหรือเอาชนะปัญหานั้นอย่างชาญฉลาด โดยจะออกเสียงคำนั้นๆ อย่างชัดเจน และเน้นจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำให้คนทั่วไปติดภาพความเป็นตัวตนของ โรแวน แอ็ตคินสัน นี่เองที่เป็นจุดสร้างความฮาให้กับคนทั่วไปได้อย่างมาก และก่อนที่เขาจะทำการแสดง เขาก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการออกเสียงอย่างมาก โดยจะมีการเขียนสคริปท์เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ และลดปัญหาการออกเสียงผิดๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับโรแวน จนวันนี้ ลักษณะของ มิสเตอร์บีนโดยโรแวน แอ็ตคินสันนั้น ก็ได้สร้างความคุ้นเคยให้คนทั่วไปได้รู้จักและรักเขาเสมือนตลกสมัยก่อน ชาร์ลี แชปลิน นอกจากนี้โรแวนยังได้รับฉายาว่าเป็นตลกหน้าย้วย เพราะหากดูให้ดี การแสดงที่เขาได้ถ่ายทอดออกมานั้นจะไม่เน้นบทสนทนาเป็นหลัก แต่จะสื่อออกมาในรูปแบบของหน้าตาที่ปรับเปลี่ยนไปมาของเขา ที่ทำให้ดูตลกได้ไม่ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร
จากพรสวรรค์ที่มีในตัวของโรแวน ในปี 1978 เขาได้รับการเสนอให้ทำละครชุดเรื่อง “Not the Nine O’Clock News” ซึ่งอำนวยการสร้างโดย จอห์น ลอยด์ ส่วนตัวเขาเองนั้นก็รับหน้าที่ถนัดในส่วนของการเขียนบทละคร และร่วมแสดงกับพาเมล่า สตีเฟนสัน, กริฟฟ์ รีส จอห์น และ เมล สมิธ ความสำเร็จของ Not the Nine O’Clock News นั้นทำให้เขาได้รับงานต่อเนื่อง ในปี 1983 เขาก็ได้รับงานเรื่องต่อมาคือ “Black Adder” ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ได้ทำหน้าที่การเขียนบทเช่นเคย แต่ในครั้งนี้เขาได้ทำงานร่วมกับ ริชาร์ด เคอร์ทิส ผู้ที่เขาได้รู้จักมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ และแม้เรื่อง Black Adder จะเป็นละครชุดเรื่องใหม่ แต่ก็สามารถเรียกความนิยมได้เป็นอย่างดี จนทำให้ได้รับการแต่งภาค 2-4 ตามออกมาอย่างต่อเนื่องใน ทั้ง Black Adder the Third และ Black Adder Goes Forth ซึ่งละครชุดดังกล่าวก็ได้สร้างกระแสความนิยม และถือเป็นการประสพความสำเร็จอย่างมากของช่อง BBC ในปี 1980
นอกจากนี้ในส่วนของละครที่เป็นที่นิยมอย่างมากอีกเรื่องหนึ่ง ที่เรียกเสียงตอบรับจากผู้ชมทั่วโลกคือ “Mr. Bean” ซึ่งในช่วงแรกนั้น Mr. Bean ได้รับผลิตการออกมาชิมลางก่อนเพียงครึ่งชั่วโมง ในช่อง Thames และแน่นอนว่าความนิยมในตัวละครเรื่องMr. Bean นั้นก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ละครขำฮาดังกล่าวถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1997 เรื่อง Mr. Bean นี้ก็ได้รับความร่วมมือจากดารานำแสดงจากเรื่อง Not the Nine O’Clock คือ เมล สมิธ และเรื่องนี้เองที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลจนทำให้โรแวน แอ็ตคินสันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ค่าตอบแทนที่ได้มาอย่างมากมายนั้นก็ทำให้เขาสามารถนำเงินไปซื้อสิ่งที่เขารักได้ นั่นคือรถยนต์ McLaren F1 ต่อมา ได้มีการดึงไอเดียจากเรื่อง Mr. Bean มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และแน่นอนว่า Mr. Bean ได้รับการตอบรับอย่างดีจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปี 2006 ซึ่งโรแวนเองได้กล่าวว่านี่อาจจะถึงจุดอิ่มตัวแล้วสำหรับเขาในการที่จะสวมบท Mr. Bean ด้วยอายุของเขาเองที่มากขึ้นและ Mr. Bean เองก็น่าจะหยุดเพื่อที่จะอยู่ในความทรงจำที่น่าประทับใจเพียงเท่านี้
โรแวน แอ็ตคินสันนั้นขึ้นทำเนียบ 50 ดาราฮาระเบิดในเกาะอังกฤษในปี 2003 และต่อมาในปี 2005 โพลก็ได้โหวตเขาขึ้นมาจากดาราตลก 50 คนให้เขากลายเป็นดาราตลกที่สร้างความฮาได้มากที่สุด และจากความตลกที่มีในสายเลือดของเขา ทำให้เขาได้รับการทาบทามให้ถ่ายโฆษณาจากสินค้าและสื่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฮิตาชิ, ฟูจิฟิล์ม และโครงการบริจาคเลือด
โรแวนนั้นถือเป็นดาราที่ร่ำรวยคนหนึ่ง ประเมินกันว่าเขามีเงินถึง 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ซึ่งถ้าถามว่าร่ำรวยขนาดนี้ เขาเอาเงินไปซื้อหาความสุขเข้าตัวด้วยการซื้ออะไร ก็ต้องบอกเลยว่าโรแวนชอบการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ โดยเมื่อเขายังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ที่ฟาร์มของบ้านเขานั้น เขามักจะขับรถมอรร์ริส ไมเนอร์ของแม่วนไปรอบโรงนาเสมือนหนึ่งเป็นรถไถ และใช่ว่าเขาจะขับเป็นเฉพาะรถทั่วไป สำหรับโรแวนแล้ว เมื่อต้องการที่จะรู้เรื่องอะไรก็ตาม เขาต้องรู้ให้ซึ้ง และสามารถเข้าถึงได้ทุกเรื่องที่เขารัก เรื่องรถก็เช่นกัน เขาสามารถขับรถได้แทบทุกประเภท รวมถึงรถใหญ่ซึ่งเขาก็ได้ใบอนุญาตขับรถใหญ่มาแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ด้วยความที่เขาเป็นคนที่สนใจเรื่องรถเป็นอย่างมาก เขายังได้ใช้ความสามารถในการรักการเขียนของเขาไปเขียนบทความให้กับหนังสือชื่อดังเกี่ยวกับรถของอังกฤษ ชื่อ Car and Evo Magazine
นอกจากโรแวนจะเป็นคนที่ชอบรถแล้ว เขายังชอบแข่งรถอีกด้วย และถึงแม้เขาจะไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปแข่งรถตามที่ใจเขารักบ่อยนัก แต่เขาก็นำความอยากเป็นนักแข่งมาใส่ตัวตนของเขา และเสนอออกมาในรูปแบบของการเล่นละครได้ในที่สุด ซึ่งมันก็สามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ในปี 1995 เขาได้สวมบทบาทของนักแข่งรถชื่อดังเฮนรี่ เบอร์กิน ในการแสดงละครทางโทรทัศน์เรื่อง “Trottle” พร้อมกันนี้โรแวนก็ได้สะสมรถไว้หลายรูปแบบ เริ่มที่แอสตัน มาร์ติน วี 8 ซึ่งเป็นรถคันแรกของเขาซึ่งเขาได้ใช้เงินก้อนแรกจากการเป็นนักแสดงซื้อมา เพราะติดใจในรูปแบบของของรถ เนื่องจากเขาได้ใช้รถดังกล่าวในการแสดง และรู้สึกชอบอย่างมาก จึงได้ซื้อมาเก็บไว้เป็นของส่วนตัว ต่อด้วยแอสตัน มาร์ติน 8 ซากาโต้, รถยนต์ออดี้ A 8 ซึ่งถือเป็นรถที่ใช้สำหรับครอบครัว และยังมีรถอื่นๆ อีกหลายคัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นรถแข่งมากกว่ารถขับทั่วไป แต่รถที่โรแวนไม่ซื้อเลยคือรถปอร์เช่ เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่า ถึงแม้ว่าปอร์เช่จะเป็นรถที่วิเศษที่สุด แต่เขาก็รู้ว่าเขาเข้ากับมันไม่ได้
ผลงานที่แสดงผ่านมา
ผลงานแสดงรับเชิญ
- พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ (1983)
- Hot Shots! Part Deux (1993)
- Four Weddings and a Funeral (1994)
- ทุกหัวใจมีรัก (2003)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ชีวประวัติ โรวัน แอตคินสัน ที่ อินเทอร์เน็ตมูฟวีดาตาเบส
- Rowan Atkinson biography at BFI Screenonline
Rowan Atkinson AKA Rowan Sebastian Atkinson
Born: 6-Jan-1955
Birthplace: Newcastle-upon-Tyne, England
Gender: Male
Race or Ethnicity: White
Sexual orientation: Straight
Occupation: Actor, Comic
Nationality: England
Executive summary: Mr. Bean
Father: Eric Atkinson (farmer)
Mother: Ella May Atkinson
Brother: Rupert
Brother: Rodney
Wife: Sunetra Sastry (m. 1990, one son, one daughter)
Son: Benjamin
Daughter: Lily
High School: Cathedral Chorister School, Durham
High School: St. Bee's School
University: Newcastle University
University: Oxford University
Laurence Olivier Theatre Award 1982 (Comedy)Hernia Operation (2009)
TELEVISIONNot the Nine O'Clock News 1979-82The Black Adder Blackadder (1983)Blackadder II Blackadder (1986)Blackadder the Third Blackadder (1987)Blackadder Goes Forth Blackadder (1989)Mr. Bean Mr. Bean (1990-95)
FILMOGRAPHY AS ACTORMr. Bean's Holiday (22-Mar-2007) Keeping Mum (2-Dec-2005) Love Actually (7-Sep-2003) Johnny English (6-Apr-2003) Scooby Doo (8-Jun-2002) Rat Race (30-Jul-2001) Maybe Baby (2-Jun-2000) Bean (3-Jul-1997) The Lion King (15-Jun-1994) [VOICE]Four Weddings and a Funeral (9-Mar-1994) Hot Shots! Part Deux (21-May-1993) · Dexter HaymanRowan Atkinson Live (11-Apr-1992) Bernard and the Genie (1991) The Witches (16-Feb-1990) The Tall Guy (11-Sep-1989) Blackadder's Christmas Carol (1988) Never Say Never Again (7-Oct-1983) The Secret Policeman's Other Ball (21-May-1982) · HimselfThe Secret Policeman's Ball (22-Dec-1979)
Personal life
In 2009, he criticised homophobic speech legislation, saying that the House of Lords must vote against a government attempt to remove a free speech clause in an anti-gay hate law.[21]
Atkinson holds a category C+E (formerly 'Class 1') lorry driving licence, gained in 1981, because lorries held a fascination for him, and to ensure employment as a young actor. He has also used this skill when filming comedy material.
A lover of and participant in car racing, he appeared as racing driver Henry Birkin in the television play Full Throttle in 1995. In 1991, he starred in the self-penned The Driven Man, a series of sketches featuring Atkinson driving around London trying to solve his car-fetish, and discussing it with taxi drivers, policemen, used-car salesmen and psychotherapists.
Atkinson has raced in other cars, including a Renault 5 GT Turbo for two seasons for its one make series. He owns a McLaren F1, which was involved in an accident in Cabus, near Garstang, Lancashire with an Austin Metro. He also owns a Honda NSX. Other cars he owns include an Audi A8, and a Honda Civic Hybrid.
The Conservative Party politician Alan Clark, himself a devotee of classic motor cars, recorded in his published Diaries this chance meeting with a man he later realised was Atkinson while driving through Oxfordshire in May 1984: "Just after leaving the motorway at Thame I noticed a dark red DBS V8 Aston Martin on the slip road with the bonnet up, a man unhappily bending over it. I told Jane to pull in and walked back. A DV8 in trouble is always good for a gloat." Clark writes that he gave Atkinson a lift in his Rolls Royce to the nearest telephone box, but was disappointed in his bland reaction to being recognised, noting that: "he didn't sparkle, was rather disappointing and chétif."
One car Atkinson has said he will not own is a Porsche: "I have a problem with Porsches. They're wonderful cars, but I know I could never live with one. Somehow, the typical Porsche people—and I wish them no ill—are not, I feel, my kind of people. I don't go around saying that Porsches are a pile of dung, but I do know that psychologically I couldn't handle owning one."
Born: 6-Jan-1955
Birthplace: Newcastle-upon-Tyne, England
Gender: Male
Race or Ethnicity: White
Sexual orientation: Straight
Occupation: Actor, Comic
Nationality: England
Executive summary: Mr. Bean
Father: Eric Atkinson (farmer)
Mother: Ella May Atkinson
Brother: Rupert
Brother: Rodney
Wife: Sunetra Sastry (m. 1990, one son, one daughter)
Son: Benjamin
Daughter: Lily
High School: Cathedral Chorister School, Durham
High School: St. Bee's School
University: Newcastle University
University: Oxford University
Laurence Olivier Theatre Award 1982 (Comedy)Hernia Operation (2009)
TELEVISIONNot the Nine O'Clock News 1979-82The Black Adder Blackadder (1983)Blackadder II Blackadder (1986)Blackadder the Third Blackadder (1987)Blackadder Goes Forth Blackadder (1989)Mr. Bean Mr. Bean (1990-95)
FILMOGRAPHY AS ACTORMr. Bean's Holiday (22-Mar-2007) Keeping Mum (2-Dec-2005) Love Actually (7-Sep-2003) Johnny English (6-Apr-2003) Scooby Doo (8-Jun-2002) Rat Race (30-Jul-2001) Maybe Baby (2-Jun-2000) Bean (3-Jul-1997) The Lion King (15-Jun-1994) [VOICE]Four Weddings and a Funeral (9-Mar-1994) Hot Shots! Part Deux (21-May-1993) · Dexter HaymanRowan Atkinson Live (11-Apr-1992) Bernard and the Genie (1991) The Witches (16-Feb-1990) The Tall Guy (11-Sep-1989) Blackadder's Christmas Carol (1988) Never Say Never Again (7-Oct-1983) The Secret Policeman's Other Ball (21-May-1982) · HimselfThe Secret Policeman's Ball (22-Dec-1979)
Personal life
Marriage and children
Atkinson first met Sunetra Sastry in the 1980s, who was working as a make-up artist with the BBC. Sastry is of mixed descent, being the daughter of an Indian father and a British mother. The couple married at the Russian Tea Room in New York City in 1990. They have two children and live in Oundle, Northamptonshire as well as Ipsden, Oxfordshire and Highbury, London. In October 2010, his Blackadder co-star Stephen Fry confessed on The Rob Brydon Show that he had contemplated asking Sastry out (she was a make-up artist on the series), but discovered she was going on a date with Atkinson and kept quiet. Fry was best man at Atkinson's wedding in 1990. Atkinson was formerly in a relationship with actress Leslie Ash.Politics
In June 2005, Atkinson led a coalition of the UK's most prominent actors and writers, including Nicholas Hytner, Stephen Fry, and Ian McEwan, to the British Parliament in an attempt to force a review of the controversial Racial and Religious Hatred Bill, which they felt would give overwhelming power to religious groups to impose censorship on the arts.In 2009, he criticised homophobic speech legislation, saying that the House of Lords must vote against a government attempt to remove a free speech clause in an anti-gay hate law.[21]
Cars
With an estimated wealth of £100 million, Atkinson is able to indulge his passion for cars that began with driving his mother's Morris Minor around the family farm. He has written for the British magazines Car, Octane, Evo, and "SuperClassics", a short-lived UK magazine, in which he reviewed the McLaren F1 in 1995.
Atkinson holds a category C+E (formerly 'Class 1') lorry driving licence, gained in 1981, because lorries held a fascination for him, and to ensure employment as a young actor. He has also used this skill when filming comedy material.
A lover of and participant in car racing, he appeared as racing driver Henry Birkin in the television play Full Throttle in 1995. In 1991, he starred in the self-penned The Driven Man, a series of sketches featuring Atkinson driving around London trying to solve his car-fetish, and discussing it with taxi drivers, policemen, used-car salesmen and psychotherapists.
Atkinson has raced in other cars, including a Renault 5 GT Turbo for two seasons for its one make series. He owns a McLaren F1, which was involved in an accident in Cabus, near Garstang, Lancashire with an Austin Metro. He also owns a Honda NSX. Other cars he owns include an Audi A8, and a Honda Civic Hybrid.
The Conservative Party politician Alan Clark, himself a devotee of classic motor cars, recorded in his published Diaries this chance meeting with a man he later realised was Atkinson while driving through Oxfordshire in May 1984: "Just after leaving the motorway at Thame I noticed a dark red DBS V8 Aston Martin on the slip road with the bonnet up, a man unhappily bending over it. I told Jane to pull in and walked back. A DV8 in trouble is always good for a gloat." Clark writes that he gave Atkinson a lift in his Rolls Royce to the nearest telephone box, but was disappointed in his bland reaction to being recognised, noting that: "he didn't sparkle, was rather disappointing and chétif."
One car Atkinson has said he will not own is a Porsche: "I have a problem with Porsches. They're wonderful cars, but I know I could never live with one. Somehow, the typical Porsche people—and I wish them no ill—are not, I feel, my kind of people. I don't go around saying that Porsches are a pile of dung, but I do know that psychologically I couldn't handle owning one."
Johnny English Reborn
มิสเตอร์ บีน ชื่อจริงว่า โรแวน เซบาสเตียน แอ็ตคินสัน
ตอบลบมิสเตอร์ บีน ชื่อจริงว่า โรแวน เซบาสเตียน แอ็ตคินสัน นิกเนม โรว์ เกิดวันที่ 6 มกราคม 1955 ที่เมืองเดอร์แฮม ประเทศอังกฤษ ครอบครัวเป็นชาวนา มีพี่ชาย 2 คน สถานภาพสมรสแล้วกับซูเนตร้า แซสตรี ช่างแต่งหน้า ตั้งแต่ปี 1990 มีลูก 2 คน ชายหญิง ชื่อเบนจามินกับลิลี่
ส่วนสูง 185 เซนติเมตร เข้าเรียนในโรงเรียนแคธีดรอล คอลริสเตอร์ ในเมืองเดอร์แฮม ที่เดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่ แบลร์
จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรไฟฟ้า มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล จากนั้นก็ต่อปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ควีนส์ คอลเลจ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่โรแวนได้โชว์พรสวรรค์ในการเป็นนักแสดงตลก
แอตคินสันได้ร่วมแสดงและเขียนบทละครในงานแสดงของมหาวิทยาลัย ทำให้ได้รู้จักกับริชาร์ด เคอร์ติส นักเขียนบทชื่อดังและได้ร่วมงานกัน
หลังศึกษาจบทั้งคู่ได้เขียนบทร่วมกันในซีรีส์เรื่อง Not the Nine O"Clock News ปี 1979 ที่แอ็ตคินสัน ได้ร่วมแสดงด้วย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้รับรางวัลเอมมี่ อวอร์ด และรางวัลด้านรายการบันเทิงยอดเยี่ยมจากบริติช อะคาเดมี ประจำปี 1980 แอ็ตคินสันยังได้รับรางวัลบุคคลแห่งปีจากสถานีโทรทัศน์บีบีซีจากการแสดงในเรื่องนี้ด้วย ทั้งเมื่อนำบทละครมาตีพิมพ์เป็นหนังสือก็ยังขายดีติดอันดับอีกต่างหาก
หลังจากนั้นก็มีผลงานต่อเนื่อง ปี 1983 Black Adder ร่วมงานกับริชาร์ด เคอร์ติส เช่นเดิม ประสบความสำเร็จจนมีการสร้างต่อจนถึงภาคที่ 4 ตามติดด้วย Mr. Bean ที่ตอนแรกผลิตขึ้นมาเพื่อชิมลางดูก่อนแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ได้รับการตอบรับอย่างดีจนดังกระหึ่มไปทั่วโลกมีการฉายต่อเนื่องเรื่อยมา กระทั่งล่าสุดปี 2007 ในเวอร์ชั่น Mr.Bean at a Wedding และมีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1997 และ Mr.Bean"s Holiday ปี 2007
ผลงานซีรีส์ อื่นอาทิ The Secret Policeman"s Ball ปี 1979, Bernard and the Genie as Bernard"s Boss ปี 1991 The Thin Blue Line as Inspector Raymond Fowler 1995, Doctor Who and the Curse of Fatal Death ปี 1999, Popsters ปี 2001, Lying to Michael Jackson 2003, Spider-Plant Man ปี 2005
งานภาพยนตร์ ได้แก่ The Secret Policeman"s Other Ball ปี 1982 Dead on Time ปี 1983 The Appointments of Dennis Jennings และ The Tall Guy ปี 1989 The Witches ปี 1990 Hot Shots! Part Deux ปี1993, Four Weddings and a Funeral 1994, Maybe Baby ปี 2000, Rat Race 2001, Scooby-Doo ปี 2002, Johnny English และ Love Actually ปี 2003 และ Keeping Mum ปี 2005 นอกจากนี้ยังมีงานพากย์เสียงในแอนิเมชั่นเรื่องดัง The Lion King รับบทเป็น ซาซู
แอ็ตคินสันเคยพูดถึงบุคลิกตัวเองว่า "คนส่วนใหญ่คิดว่าผมเป็นคนตลกทั้งบนเวทีและในชีวิตจริง แต่จริงๆแล้วผมเป็นคนค่อนข้างเงียบ ทื่อ ที่จับพลัดจับผลูมาเป็นนักแสดง" มีนิสัยชอบการแข่งรถ รักรถเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งยังเขียนบทความเกี่ยวกับรถลงในนิตยสาร CAR ของอังกฤษด้วย
ยามว่างขับโกคาร์ตในสนามเทนนิสที่บ้าน และติดตามชมผลงานของสตีเฟ่น ฟราย นักแสดงตลกที่ร่วมงานกันในแบล็ก แอดเดอร์ ซึ่งเขาชื่นชอบมาก แอ็ตคินสันนับเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกเขาเป็น 1ในแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญให้ร่วมงานสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับ นางคามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบวส์
ในปี 2003 ติดอันดับ 50 ดาราฮาระเบิดของเกาะอังกฤษ และปี 2005 โพลจัดอันดับให้เป็นดาราที่สร้างความฮาได้มากที่สุด
เว็บไซต์ทางการ http://www.rowanatkinson.com/forum.php
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6301 ข่าวสดรายวัน
.
Johnny English Reborn
ตอบลบRowan Atkinson returns to the role of the improbable secret agent who doesn’t know fear or danger in the comedy spy-thriller Johnny English Reborn. In his latest adventure, the most unlikely intelligence officer in Her Majesty’s Secret Service must stop a group of international assassins before they eliminate a world leader and cause global chaos.
In the years since MI7’s top spy vanished off the grid, he has been honing his unique skills in a remote region of Asia. But when his agency superiors learn of an attempt against the Chinese premier’s life, they must hunt down the highly unorthodox agent. Now that the world needs him once again, Johnny English is back in action.
With one shot at redemption, he must employ the latest in hi-tech gadgets to unravel a web of conspiracy that runs throughout the KGB, CIA and even MI-7. With mere days until a heads of state conference, one man must use every trick in his playbook to protect us all. For Johnny English, disaster may be an option, but failure never is.
.
Johnny English Reborn
ตอบลบพยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก สายลับกลับมาป่วน | เรื่องย่อ
โรแวน แอทคินสัน กลับมารับบทสายลับจำเป็นที่ไม่รู้จักทั้งความหวาดกลัวหรืออันตรายในภาพยนตร์ตลกทริลเลอร์สายลับเรื่อง Johnny English Reborn ในการผจญภัยครั้งล่าสุดนี้ สายลับสุดเฟอะฟะแห่งสหราชอาณาจักร ต้องหยุดกลุ่มมือสังหารระดับโลกก่อนที่พวกนั้นจะกำจัดผู้นำของโลก และก่อให้เกิดเหตุวุ่นวายไปทั่วโลก
นับแต่สายลับของ MI7 หายตัวไปจากวงการ อันที่จริงเขาแอบซุ่มฝึกปรือฝีมืออันโดดเด่นอยู่ในดินแดนอันห่างไกลในเอเชีย แต่เมื่อบรรดาผู้มีอำนาจในหน่วยงานพบข้อมูลว่ามีความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่คิดจะปลิดชีวิตผู้นำจีน พวกเขาจึงต้องตามหาตัวสายลับสุดแหวกแนวผู้นี้ บัดนี้ เมื่อโลกต้องการความช่วยเหลือจากเขาอีกครั้ง จอห์นนี่ อิงลิช จึงต้องกลับมาลุยอีกรอบ
เมื่อโอกาสไถ่บาปมาถึง เขาต้องใช้อุปกรณ์ไฮเทคล่าสุดเพื่อคลี่คลายเครือข่ายสมรู้ร่วมคิดที่แพร่กระจายเข้าไปทั้งในเคจีบี, ซีไอเอ และแม้แต่เอ็มไอ-7 ด้วยเวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดก่อนจะถึงการประชุมนานาชาติ หนึ่งชายชาตรีผู้นี้ต้องใช้ทุกกลเม็ดที่พกมาในกระเป๋าเพื่อปกป้องพวกเราทุกคน สำหรับจอห์นนี่ อิงลิช หายนะอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่เขามิอาจล้มเหลวได้
Rowan Atkinson returns to the role of the accidental secret agent who doesnt know fear or danger in the comedy spy-thriller Johnny English Reborn. In his latest adventure, the most unlikely intelligence officer in Her Majestys Secret Service must stop a group of international assassins before they eliminate a world leader and cause global chaos.
.