ลอนดอน (London)ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก จีดีพีของลอนดอน คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของสหราชอาณาจักร ลอนดอนมีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน (ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 - 14 ล้านคนถ้ารวมนครหลวงลอนดอนและปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติอย่างมาก ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา ซึ่งประมาณว่ามีมากกว่า 300 ภาษา เราเรียกชาวลอนดอนว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner) ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ ประวัติศาสตร์ ชื่อ ลอนดอน นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะมาจากชื่อกรุงลอนดอนในสมัยโรมันว่า ลอนดิเนียม (ละติน: Londinium) ซึ่งเป็นภาษาละติน และเพี้ยนมาเป็นชื่อ "ลอนดอน" ในภายหลัง ถึงแม้ว่าชาวโรมันจะพิชิตอังกฤษได้ก็ตาม ลอนดิเนียมแห่งนี้อยู่เพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น ในปี ค.ศ. 61 ชาวเผ่าไอซินี นำโดยราชินีโบดิก้า บุกเข้ายึดลอนดึเนียม เผาทั้งเมือง และเข่นฆ่าชาวโรมันอย่างเหี้ยมโหด แต่ในเวลาถัดมา ชาวโรมันสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ และชนะการรบกับราชินีโบดิก้า ในราวศตวรรษที่ 2 ลอนดิเนียมรุ่งเรืองถึงขีดสุด และลอนดอนโรมันมีประชากรประมาณ 60,000 คน ลอนดอนประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ส่งผลให้ผู้คนเชื่อว่าเลข 666 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย การสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาถึง 10 ปีด้วยกัน แต่ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ท่องเที่ยวในลอนดอน ลอนดอน หนึ่งในเมืองสำคัญของโลก และเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เมืองที่รวมเอามนต์ขลังของบ้านเมืองแบบโบราณ และความทันสมัยแบบโลกยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและมีสีสัน และด้วยความ“ หลากหลาย” ที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี่เอง ทำให้ลอนดอนกลายเป็นเมืองในดวงใจของนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคน ชนิดที่ไปเยือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไม่มีเบื่อ หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) บิ๊กเบนคือสัญลักษณ์หนึ่ง ที่อยู่เคียงคู่กับนครลอนดอนมายาวนาน เรียกว่าใครเห็นหอนาฬิกานี้ก็ต้องนึกถึงลอนดอนในทันที ซึ่งหอนาฬิกานี้สูงเกือบ 320 ฟุต นามว่า “ บิ๊กเบน” นั้น ได้มาจากชื่อของระฆังที่ใหญ่ที่สุดในหอระฆังนั่นเอง ซึ่งยังคงดังบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงแก่ชาวลอนดอนเรื่อยมาจนปัจจุบัน สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Westminster วิหารเวสต์มินสเตอร์ ( Westminster Abbey) อยู่บริเวณเดียวกับหอนาฬิกาบิ๊กเบนนั่นเอง โดยภายในวิหารแห่งนี้ ได้รับการตกแต่งด้วยสไตล์โกธิคอย่างงดงาม ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ของราชวงศ์อังกฤษ มาหลายชั่วอายุคน ทั้งพระราชพิธีราชาภิเษก หรือแม้กระทั่งพิธีฝังพระศพกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ รวมทั้งบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง เซอร์ไอแซค นิวตั้น When to visit : เปิดให้ชม วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09:30 - 15:45 น.และในวันเสาร์ ตั้งแต่ 09:45 - 13:45 น. ส่วนวันอาทิตย์ เปิดเพื่อทำพิธีทางศาสนาเท่านั้น ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7.50 ปอนด์ เด็ก 5 ปอนด์ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Westminster ลอนดอนอาย (British Airways London Eye) เพียงข้ามแม่น้ำเทมส์ ตรงหอนาฬิกาบิ๊กเบน ก็จะเจอจุดชมวิวที่สูงที่สุดในลอนดอนแห่งนี้ London Eye ชิงช้าสวรรค์ยักษ์แห่งนี้ ได้รับการลงคะแนนว่า เป็นจุดท่องเที่ยวของลอนดอนที่นักท่องเที่ยวโปรดปรานมากที่สุดถึง 2 ปีซ้อน โดยใช้ระยะเวลา 30 นาที วงล้อมหึมาที่ประกอบด้วยแคปซูลกระจกจำนวน 32 ห้อง จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ระดับความสูง 137 เมตร ที่ที่คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของลอนลอนได้อย่างไกลสุดสายตาเลยทีเดียว คำแนะนำ : ลอนดอนอาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ทุกวันจะมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงควรที่จะจองตั๋งล่วงหน้าไว้เนิ่นๆ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Waterloo และ สถานี Westminster หอคอยแห่งลอนดอน ( Tower of London) หอคอยแห่งนี้เป็นที่ใช้เก็บมหามงกุฎ และเครื่องเพชรของพระราชวงศ์อังกฤษ และเป็นสถานที่แห่งประวิติศาสตร์ที่ยาวนาน และมีสีสัน ทั้งสยดสยองและน่ากลัว เนื่องจากครั้งหนึ่ง ที่นี่เคยเป็นคุกและที่ประหารมาก่อน ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของสะพาน Tower Bridge ซึ่งเป็นอีกสัญลักษณ์นึงของลอนดอน When to visit : เปิดให้เข้าชม วันอังคาร - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ส่วนวันอาทิตย์และวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 17.00 น. เวลาดังกล่าวสำหรับช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ส่วนในเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม เปิดตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น. สำหรับวันจันทร์ถึงวันเสาร์ และวันอาทิตย์ 10.00-18.00 น. ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 13.50ปอนด์ เด็ก 9ปอนด์ โทรศัพท์ : +44 0 870 7566060 สถานีรถไฟใต้ดิน : Tower Hill พระราชวังบักกิ้งแฮม ( Buckingham Palace) เป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามี เดิมเป็นวังของ ดยุกแห่งบักกิ้งแฮม สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ 1703-1705 และได้รับการปรับปรุงให้เป็นพระราชวังในเวลาต่อมา สำหรับในช่วงฤดูร้อนนั้น จะเปิดให้เข้าชมบริเวณท้องพระโรง ห้องจัดพระราชทานเลี้ยง ห้องทรงดนตรี ห้องขาว ห้องเขียว และห้องน้ำเงิน พิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์ที่หน้าพระราชวัง เป็นอีกสิ่งนึงที่ไม่ควรพลาด พิธีเริ่มเวลา 11.30 น. ของทุกวัน (ช่วงฤดูร้อนมีพิธีวันเว้นวัน) แต่เพื่อตำแหน่งในการชมที่ชัดเจน ควรไปจับจองที่ยืนชมแต่เนิ่นๆ ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือรอบอนุสาวรีย์พระนางเจ้าวิคตอเรียที่อยู่ด้านหน้าของพระราชวัง ในส่วนนี้ไม่เสียค่าเข้าชมใดๆ ค่าเข้าชมพระราชวัง : ผู้ใหญ่ 12.50ปอนด์ และเด็ก6.50ปอนด์ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Green Park และ St. Jame’s Park เทท บริเตน และ เททโมเดิร์น ( Tate Gallery – Tate Modern) สำหรับผู้ชื่นชอบศิลปะ ห้ามพลาด ที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งสำคัญของโลก เดิมเป็นอาคารโรงไฟฟ้าเก่า แต่ได้รับการปรับปรุงเป็นแกลเลอรี่ที่ทันสมัย ที่นี่ใช้จัดแสดงผลงานของศิลปินสมัยใหม่ เช่น Urinal ของ Duchamp และ Lobster Telephone ของ Salvador Dali รวมถึงผลงานชิ้นดังๆ ที่ขยายมาจากTate Gallery อาทิ ประติมากรรม The Kiss ของโรแดง และงาน Impressionism ของศิลปินฝรั่งเศส เป็นต้น Tate Modern ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำเทมส์ มีร้านกาแฟไว้นั่งจิบกาแฟพร้อมกับชมทัศนียภาพของแม่น้ำเทมส์ สะพานมิลเลเนี่ยม และ ทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามได้อย่างดี ส่วน Tate Gallery ยังคงเป็นที่ตั้งแสดงผลงานของศิลปินสมัยใหม่ต่างๆ อาทิ เบลก, เทอร์เนอร์ และคอนสเตเบิล เป็นต้น When to visit : เปิดให้เข้าชม วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00-18.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์ 10.00-22.00 น. เข้าชมฟรี ยกเว้นถ้ามีนิทรรศการพิเศษ ต้องเสียค่าเข้าชม ส่วน สถานีรถไฟใต้ดินไป Tate Gallery : สถานี Pimlico สถานีรถไฟใต้ดินไป Tate Modern : สถานี Southwark และ Blackfriars ดีไซน์มิวเซียม ( Design Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมริมแม่น้ำเทมส์ฝั่งใต้ ที่นี่รวบรวมงานออกแบบทั้งแฟชั่น สถาปัตยกรรม และข้าวของเครื่องใช้ในยุคปัจจุบัน ที่ได้รับการออกแบบเพื่องานอุตสาหกรรม เช่น นาฬิกา โคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ตั้งแต่ยุคแรกผลิต จนถึงยุคปัจจุบัน รวมทั้งต้นแบบของที่ยังไม่ออกสู่ท้องตลาด นอกจากนี้ ก็ยังมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือ เกี่ยวกับการดีไซน์เครื่องมือ เกมส์ ต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจหาความรู้เพิ่มเติม หรือจะเลือกไปนั่งจิบน้ำชามองทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ก็เก๋ไปอีกแบบ When to visit : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00-17.45 น. ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 6 ปอนด์ และเด็ก 4 ปอนด์ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Tower Hill และ London Bridge บริติชมิวเซียม ( British Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่โต เก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่รวบรวมผลงานที่แสดงถึง อารยธรรมอันรุ่งเรืองของมนุษย์ ตั้งแต่ยุคหิน จนถึงปัจจุบัน จัดแสดงภายในห้องต่างๆ เกือบร้อยห้อง ที่ไม่ควรพลาดชมคือ ห้องอียิปต์ ซึ่งมีของเกี่ยวกับอียิปต์ ที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นรองก้อแต่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโรเท่านั้น When to visit : ลานกลางพิพิธภัณฑ์ เกรท คอร์ท เปิดบริการวันอาทิตย์-วันพุธ เวลา 9.00-18.00 น. วันพฤหัสบดี-วันเสาร์ เวลา 9.00-23.00 น. ส่วนแกลเลอรี่ เปิดให้เข้าชม วันเสาร์-วันพุธ เวลา 10.00-17.00 น. วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ เวลา 10.00-20.30 น. ค่าเข้าชม : ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ยกเว้น นิทรรศการพิเศษ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Russell Square หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซด์ (Madame Tussaud’s) พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งแห่งนี้ กำเนิดมามากกว่า 200 ปี หุ่นขี้ผึ้งของมาดามทุสโซด์ เป็นหุ่นจำลองมาจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในสาขาต่างๆ ตั้งแต่กษัตริย์ และราชวงศ์ในสมัยโบราณ เรื่อยไปจนถึงอาชญากรคนสำคัญ ดารา นักร้อง นักกีฬาคนดังในปัจจุบัน โดยจัดแสดงในห้องแยก ตามเรื่องราวต่างๆ เช่น ห้องของนักร้อง นักแสดง ห้องแห่งความสยดสยอง หรือ ห้องประวัติศาสตร์ของกรุงลอนดอน โดยจากห้องสุดท้าย สามารถเชื่อมต่อไปยัง Tussaud’s London Planetarium ท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณเดียวกับพิพิธภัณฑ์ได้อีกด้วย When to visit : เปิดให้เข้าชม วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-17.30 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น. ค่าเข้าชม : คนละ 21.99 ปอนด์ แต่ถ้าเข้าชมหลังบ่าย 3 โมง ลดราคาเหลือ 17.99 ปอนด์ สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Baker Street จตุรัสเลสเตอร์ ( Leicester Square) เป็นจุดท่องเที่ยวที่คลาสสิกอีกแห่งนึงของกรุงลอนดอน มีผู้คนมาเดินพักผ่อน ชมความงามของจตุจัส บางครั้งก็จะได้เห็ Street Performance ที่น่าสนใจ โดยที่บริเวณใกล้เคียง เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร บาร์ โรงละคร และไนท์คลับนับร้อยแห่ง รวมทั้งอยู่ใกล้ย่านโซโห ไชน่าทาวน์ (SOHO) อีกด้วย ตามธรรมเนียมที่สืบทอดมาของเมืองในยุโรป ที่ยึดจตุรัสกลางเมืองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการเดินชมเมือง สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี Leicester Square พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ( National History Museum) เป็นแหล่งให้ความรู้ทางด้านธรรมชาติวิทยาที่สมบูรณ์แบบ ที่นี่มี collection พืช สัตว์ แร่ธาตุ เกือบทุกชนิดที่มี และเคยมีอยู่ในโลก ที่น่าสนใจคือ โครงกระดูกไดโนเสาร์ และเจ้าโครงกระดูกใหญ่ยักษ์ของปลาวาฬสีน้ำเงิน เป็นตัวชูโรงในห้องสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม When to visit : เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 10.00-17.50 น. วันอาทิตย์ เวลา 11.00-17.50 น. ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม คำแนะนำ : ปกติช่วงเช้าถึงกลางวัน พิพิธภัณฑ์จะแน่นมาก เพราะมีกลุ่มนักเรียนมาชมไม่ขาดสาย สถานีรถไฟใต้ดิน : สถานี South Kensington พิพิธภัณฑ์วิตอเรียและอัลเบิร์ต ( Victoria & Albert Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับงานศิลปะและดีไซน์ที่รวบรวมเอา collection งานศิลปะตกแต่งจากทั่วโลก ภายในมี gallery กว่า145 galleries จัดแสดงผลงานทางศิลปะจำนวนถึง 4 ล้านชิ้น ตั้งแต่ เซรามิก สิ่งทอ ไปจนถึงงานโลหะ โดยนำเสนอออกมาในแง่ ความสัมพันธุ์ของชิ้นงาน กับวัฒนธรรมหรือแรงจูงใจในการสร้างได้อย่างน่าสนใจ When to visit : เปิดให้เข้าชมวันพฤหัสบดี-วันอังคาร เวลา 10.00-17:45 น. วันพุธเวลา 10.00-22.00น. เข้าชมฟรี ยกเว้นนิทรรศการพิเศษ สถานีรถไฟใต้ดิน : South Kensington โคเวนต์การ์เด้น ( Covent Garden) เป็นอดีตสวนของแม่ชีแห่งวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่ภายหลังได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นตลาดมีหลังคาคลุมสไตล์ยุควิตอเรีย เป็นแหล่งรวมของสินค้านานาชนิดปัจจุบันตลาดโคเวนต์การ์เด้น จำหน่ายงานศิลปะและงานฝีมือราคาค่อนข้างแพงถึงแพงมาก นักท่องเที่ยวจึงมักมาเยี่ยมเยียนที่นี่ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าจะมาเดินซื้อของอย่างจริงจัง สถานีรถไฟใต้ดิน : Covent Garden เคมเดน ทาวน์ ( Camden Town) เป็นแหล่งชุมนุมที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ และกิ๊บเก๋ ในวันเสาร์-อาทิตย์จะมีตลาดนัดขายของ แหล่งรวมของแปลก นานาชนิด โดยเฉพาะแผ่น LP หายาก เสื้อผ้า เครื่องประดับแปลกๆ และของที่พวกศิลปินทำมาขายแบบ unique ไม่มีใครเหมือน สถานีรถไฟใต้ดิน : Camden Town โบสถ์เซนต์ปอล ( St. Paul’s Cathedral) เป็นมหาวิหารหลังคาทรงโดม ด้วยฝีมือการออกแบบของ เซอร์คริสโตเฟอร์ เรน สถาปนิกชาวอังกฤษชื่อดัง มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะโบสถ์แห่งนี้ เคยเป็นที่ประกอบพิธีสำคัญ อย่างพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแห่งเวลส์ ทั้งยังเป็นที่ฝั่งศพของบุคคลสำคัญชาวอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการทหาร อาทิเช่น ดยุก ออฟ เวลลิงตัน, ลอร์ดเนลสัน และ ฟลอเรนส์ ไนติงเกล When to visit : เปิดบริการทุกวัน ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7 ปอนด์ เด็ก 3 ปอนด์ ส่วนวันอาทิตย์เปิดเฉพาะสำหรับผู้มาทำพิธีทางศาสนาเท่านั้น (Nov 05) สถานีรถไฟใต้ดิน : St. Paul ทราฟัลการ์สแควส์ ( Trafalgar Square) เป็นจตุรัสที่ใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน กลางจตุรัสนั้นมีอนุสาวรีย์ลอร์ดเนลสัน วีรบุรุษคนสำคัญของอังกฤษ ตั้งอยู่บนเสาสูง ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของ พระบรมรูปทรงม้าของพระเจ้าชาลส์ที่ 1 และป้ายเริ่มต้นกิโลเมตรหรือไมล์ที่ 0 ทราฟัลการ์สแควส์ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ ในวันคริสต์มาสจะมีการประดับไฟ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม สถานีรถไฟใต้ดิน : Charing Cross เนชั่นแนลแกลเลอรี่ และเนชั่นแนลพอร์ทเทรตแกลเลอรี่ (National Gallery-National Portrait Gallery) ข้างๆ ทราฟัลการ์สแควร์คือเนชั่นแนลแกเลอรี่ ซึ่งมีภาพเขียนจากทั่วยุโรปแสดงอยู่กว่า 2,300 ภาพ ถึงแม้จะไม่มีภาพโมนาลิซ่าของดาวินชี แต่ผลงานของเรมบรันดท์และราฟาเอลซึ่งจัดแสดงอยู่ที่นี่ ก็น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ใกล้ๆ นั้นเองก็เป็นที่ตั้งของ National Portrait Gallery ซึ่งเป็นที่รวมภาพวาดของราชวงศ์อังกฤษและบุคลสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน ค่าเข้าชม : ทั้งสองที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม (แต่แนะนำให้บริจาคสมทบทุน) สถานีรถไฟใต้ดิน : Leicester Square และ Charing Cross ล่องแม่น้ำเทมส์ ( Thames Cruise) การนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำเทมส์ ซึ่งไหลผ่านกลางกรุงลอนดอน ดูเหมือนจะเป็นการท่องเที่ยวลอนดอนที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง จุดสวยงามที่สุด เมื่อมองจากจุดกลางแม่น้ำคือ อาคารรัฐสภา บิ๊กเบน และ หอคอยลอนดอน When to visit : ทัวร์เรือล่องแม่น้ำเทมส์ส่วนใหญ่เปิดทำการเฉพาะช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ท่าเรือใหญ่ที่ลงเรือทัวร์คือ Westminster Pier เรือลำแรกออกจากท่าประมาณ10.20 น. ค่าโดยสาร : ขึ้นกับค่าระยะทาง สถานีรถไฟใต้ดิน : Westminster ไฮด์ปาร์ค ( Hyde Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่นั่งพักผ่อนของชาวผู้ดีอังกฤษ โดยเฉพาะในฤดูร้อน และวันที่มีอากาศดี ผู้คนจะออกมานั่งสูดอากาศและปล่อยอารมณ์ในสวน นอกจากนี้ยังมีม้าและเรือสำหรับไว้ขี่เล่นภายในสวนไว้ให้บริการ ส่วนวันอาทิตย์ Speaker Corner คือมุมที่ผู้คนจะมาที่นี่ถกเรื่องการเมืองกันตามธรรมเนียมที่มีมา สถานีรถไฟใต้ดิน : Lancaster Gate , Hyde Park Corner และ Marble Arch กรีนิช ( Greenwich) เป็นสถานที่อันเป็นที่ตั้งของ เส้นเมอริเดียน 0 องศา จุดเริ่มต้นมาตรฐานเวลาโลก GMT ที่นี่มีสิ่งน่าสนใจให้เลือกชมมากมาย อาทิ เรือใบขนส่งสินค้า Cutty Sark พิพิธภัณฑ์ทางทะเล พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินเรือ หอดูดาว Royal Observatory และพิพิธภัณฑ์พัด จากใจกลางลอนดอน สามารถเดินทางไปกรีนิช โดยนั่งรถไฟดอคแลนด์ไลต์เรลเวย์ไปลงที่คัตตี้ซาร์ก หรือจะเลือกนั่งเรือไปตามแม่น้ำเทมส์ก็ได้ค่ะ |
ศูนย์ LifeVantage
ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ
09 พฤศจิกายน 2553
ลอนดอน (London)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น