ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2545 , 20 ธันวาคม 2545, 18 ตุลาคม 2547, 6 พฤษภาคม 2548 และ 23 มิถุนายน 2554 คนต่างด้าวที่ถือหนังสือเดินทางของ 48 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับยกเว้นการตรวจลงตรา และอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
หมายเหตุ คนต่างด้าวที่มิใช่คนสัญชาติของประเทศดังกล่าวหรือคนไร้สัญชาติที่ถือเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (Travel Document for Aliens) ที่ออกโดย 48 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ดังกล่าว จะไม่ได้รับยกเว้นการตรวจลงตรา และยังจำเป็นต้องขอรับการตรวจลงตราจากสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศก่อนเดินทางมาประเทศไทย
คนต่างด้าวที่เดินทางมาประเทศไทยโดยได้รับยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว จะได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศไทยได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ยกเว้นกรณีที่เดินทางเข้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน (ด่านพรมแดนทางบก) จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ได้ 15 วัน เว้นแต่คนมาเลเซียที่เดินทางเข้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีเขตติดต่อกับมาเลเซีย (ด่านพรมแดนทางบก) จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ได้คลั้งละไม่เกิน 30 วัน
คนต่างด้าวที่เดินทางมาประเทศไทยโดยได้รับยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ต้องมีเงินหรือเอกสารที่จะพึงจ่ายหรือแลกเปลี่ยนได้เป็นมูลค่าเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยคนละไม่น้อยกว่า 10,000 บาท หรือครอบครัวละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราดังกล่าวนี้ หากประสงค์จะพำนักอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 30 วัน ควรขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศก่อนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งจะได้รับอนญาตให้พำนักได้ไม่เกิน 60 วัน และสามารถยื่นคำร้องขอขยายเวลาพำนักจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ด้วย
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โทร. 02-141-9889 หรือ http://www.immigration.go.th/
รายชื่อประเทศที่ได้รับยกเว้นการตรวจลงตราตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว มีดังนี้
1. เครือรัฐออสเตรเลีย (Australia : Commonwealth of Australia)
2. สาธารณรัฐออสเตรีย (Austria : Republic of Austria)
3. ราชอาณาจักรเบลเยียม (Belgium : Kingdom of Belgium)
4. สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล (Brazil : Federative Republic of Brazil) (****)
5. รัฐบาห์เรน (Bahrain : Kingdom of Bahrain)
6. เนการาบรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam: Negara Brunei Darussalam)
7. แคนาดา (Canada)
8. สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)
9. ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (Denmark : Kingdom of Denmark)
10. สาธารณรัฐเอสโตเนีย (Estonia : Republic of Estonia)
11. สาธารณรัฐฟินแลนด์ (Finland : Republic of Finland)
12. สาธารณรัฐฝรั่งเศส (France : French Republic)
13. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Germany : Federal Republic of Germany)
14. สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Greece : Hellenic Republic)
15. ฮ่องกง (Hong Kong SAR)
16. สาธารณรัฐฮังการี (Republic of Hungary)
17. สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ (Iceland : Republic of Iceland)
18. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Indonesia : Republic of Indonesia)
19. ไอร์แลนด์ (Ireland)
20. รัฐอิสราเอล (Israel : State of Israel)
21. สาธารณรัฐอิตาลี (Italy : Republic of Italy)
22. ญี่ปุ่น (Japan)
23. สาธารณรัฐเกาหลี (Korea, South : Republic of Korea) (****)
24. รัฐคูเวต (Kuwait : State of Kuwait)
25. สาธารณรัฐลิกเตนสไตน์ (Principality of Liechtenstein)
26. ราชรัฐลักเซมเบิร์ก (Luxembourg : Grand Duchy of Luxembourg)
27. มาเลเซีย (Malaysia)
28. ราชรัฐโมนาโก (Monaco : Principality of Monaco)
29. ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (Netherlands : Kingdom of the Netherlands)
30. นิวซีแลนด์ (New Zealand)
31. ราชอาณาจักรนอร์เวย์ (Norway : Kingdom of Norway)
32. รัฐสุลต่านโอมาน (Oman : Sultanate of Oman)
33. สาธารณรัฐเปรู (Peru : Republic of Peru) (****)
34. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Philippines : Republic of the Philippines)
35. สาธารณรัฐโปแลนด์ (Republic of Poland)
36. สาธารณรัฐโปรตุเกส (Portugal : Republic of Portugal)
37. รัฐกาตาร์ (Qatar : State of Qatar)
38. สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Singapore : Republic of Singapore)
39. สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic)
40. สาธารณรัฐสโลวีเนีย (Republic of Slovenia)
41. ราชอาณาจักรเสปน (Spain : Kingdom of Spain)
42. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (South Africa : Republic of South Africa)
43. ราชอาณาจักรสวีเดน (Sweden : Kingdom of Sweden)
44. สมาพันธรัฐสวิส (Switzerland : Swiss Confederation)
45. สาธารณรัฐตุรกี (Turkey : Republic of Turkey)
46. สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (United Arab Emirates)
47. สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (United Kingdom : United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland)
48. สหรัฐอเมริกา (United States of America)
49. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam : Socialist Republic of Vietnam)
ที่มา :: การตรวจลงตรา Visa และเอกสารเดินทางคนต่างด้าว
http://www.consular.go.th/main/th/services/1286
เรียบเรียงโดย :: ประภัสรา โคตะขุน ; http://prapasara.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น