ศูนย์ LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

25 กันยายน 2561

การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ

การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ 


เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอน




ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test
ตอน 4 Practical Test
ขั้นต่อไป คือสอบปฏิบัติ หรือ Practical test ครับ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีคนสอบตกมากที่สุด ค่าเฉลี่ยในการสอบไม่ผ่าน มีมากกกว่า 50%  แปลง่ายๆ คือว่าค่าเฉลี่ยในการสอบของคนทั่วไป คือสอบ 2 ครั้งถึงผ่าน ฮือ ๆ


แม้แต่ผมก็อยู่ในค่าเฉลี่ยนี้ด้วย คือสอบครั้งแรกตกเหมือนกันครับ ขนาดขับรถเป็นมา 20 ปีแล้ว มีใบขับขี่เมืองไทยมา 17 ปี สอบรอบแรกยังตกเลย เพราะการสอบที่นี่มาตรฐานเค้าสูงครับ 



หลังจากผ่าน Theory Test แล้ว เราก็ต้องจองคิวสอบ Practical test ครับ ผ่านเว็บเช่นกัน เว็บเดียวกับที่จอง Theory test นั่นแหละครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/Motoringtransactions/DG_066356

เราก็เข้าไปจอง ข้อมูลที่ใช้ในการจองคือเบอร์ใบขับขี่ชั่วคราวของเรา และ Code ที่ได้มาพร้อมกับใบ Certificate ที่สอบผ่าน Theory ครับ เราก็เลือกศูนย์สอบที่ใกล้บ้านเราที่สุด เค้าจะมีเวลาให้เลือกได้ครับว่าจะสอบกี่โมง ค่าสมัครสอบ 62 ปอนด์ครับ

การสอบแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที สอบบนถนนจริง ตามเส้นทางที่กรรมการสอบจะเลือกให้เราครับ


ในวันสอบจริง ถ้าใครที่ลงเรียนขับรถ ก็ใช้รถของโรงเรียนนั่นแหละ แต่ถ้ามีรถเอง เราใช้รถเราได้ครับ รถทั่วไปจะใช้สอบได้ เช่นพวกรถ Hatchback 5 ประตู แต่รถเล็ก ๆ บางคันเช่น Ford KA จะไม่แนะนำนะครับ เค้าห้ามเลยแหละ ตามนี้ครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/LearnerAndNewDrivers/PracticalTest/DG_4022543และเราต้องเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย ได้แก่

1. กระจกมองหลังสำรองสำหรับให้กรรมการสอบครับ แบบติดกับกระจกหน้ารถ ซื้อได้ที่ Halfords ประมาณ 7 ปอนด์ ผมเตรียมไปด้วยกันเหนียว กรรมการบางคนใจดี เค้าจะใช้กระจกจากที่บังแดดแทนก็มีครับ แต่เตรียมไปจะดีกว่า พลาดพลั้งขึ้นมา เค้าไม่ให้สอบ เราจะเสียเงินฟรีๆ ครับ

2. ตัว L Plate ห้ามลืมครับ แปะหน้ารถหลังรถให้เรียบร้อย


3. ต้องมั่นใจว่ารถมีประกัน เสียภาษีถูกต้องนะครับ เพราะก่อนสอบเราจะต้องเซ็นชื่อรับรองว่ารถเราถูกกฎหมายทุกประการ


4. เอกสารที่ต้องพกไปในวันสอบ คือใบขับขี่ Provisional Licence ทั้งแบบบัตรแข็งและแบบกระดาษครับ Passport อยากพกไปก็ได้ แต่เค้าไม่ขอดูหรอก แต่ผมก็พกกันเหนียวไว้


วันสอบจริงก็ไปก่อนเวลาเล็กน้อย ไปนั่งรอให้ห้องรอครับ เราจะเห็นเพื่อนร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ มานั่งรอเต็มไปหมด ตอนผมไปสอบ คนอื่นๆ จะมาพร้อมครูสอนขับ และใช้รถ ร.ร. ทั้งนั้น ผมเป็นคนเดียวที่ขับรถไปเอง พอถึงเวลา กรรมการสอบจะทยอยเดินมาแล้วเรียกชื่อเราครับ เราก็เดินออกไปพร้อมกรรมการ


ขั้นตอนแรกของการสอบคือการตรวจสายตาครับ กรรมการจะพาเราไปข้างนอก แล้วชี้ไปที่รถที่จอดริมถนนซักคันนึง แล้วให้เราอ่านป้ายทะเบียนรถให้ฟังครับ ตามกฎหมายเราต้องอ่านป้ายทะเบียนรถที่จอดห่างไป 20 เมตรได้ครับ ซึ่งรถที่กรรมการชี้ อาจจะจอดไกลกว่า 20 เมตร ถ้าเราอ่านไม่ได้หรือไม่ถูกก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถเดินขยับเข้าไปได้ รู้สึกว่าจะขยับไปได้ 3 ครั้ง ถ้ายังอ่านไม่ได้ มองไม่เห็น คราวนี้ต้องทดสอบที่ระยะ 20 เมตรตามกฎครับ ผมไม่เคยต้องทดสอบขนาดนี้เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง


แต่ถ้าทดสอบสายตาไม่ผ่านหละ ก็กลับบ้านครับ ไปตัดแว่นซะ สมัครใหม่ จ่ายเงินใหม่ แล้วถึงจะไปสอบอีกได้ครับ ซึ่งต้องเริ่มต้นทางตรวจสายตาก่อนเสมอ


ถ้าสายตาไม่มีปัญหา กรรมการจะให้เราพาไปที่รถครับ กรรมการจะตรวจก่อนว่ารถเราเหมาะสมที่จะใช้สอบไหม เดินดูรอบคัน ตรวจดูว่าเรามี L Plate เรียบร้อย แล้วจึงให้เราเซ็นเอกสารรับรองรถ


จากนั้นกรรมการอาจจะให้เราเปิดฝากระโปรงรถ แล้วถามถึงวิธีการตรวจสอบซ่อมบำรุงเบื้องต้น เช่นการตรวจระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หม้อน้ำ น้ำที่ฉีดกระจก หรือกรรมการอาจจะเชิญเราเข้าไปในรถ แล้วถามคำถามอื่นๆ เช่น เราจะดตรวจสอบว่าไฟเบรกเราใช้ได้อย่างไร หรือจะรู้ได้ไงว่าเบรกเราไม่มีปัญหาครับ จะตรวจเช็คลมยางตอนไหน


จากนั้น ก็จะเป็นการสอบขับรถจริงครับ กรรมการจะอธิบายให้ฟังว่า เค้าจะบอกเราเองว่าจะให้ไปทางไหน เลี้ยวไหน หรือจะให้ทำอะไร เค้าจะบอกล่วงหน้า เราจะได้ไม่เกร็งครับ


เมื่อเราพร้อมแล้ว ก่อนอื่นเราต้องรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยครับ ตั้งแต่ก่อน start เครื่อง และก่อน start เราควรเช็คก่อนว่าเกียร์รถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง โดยการทดลองขยับคันเกียร์ไปมา อ้อ รถเราที่จอดอยู่ในช่องจอด ต้องติดเบรกมือไว้เสมอด้วยนะครับ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องครบถ้วนให้กรรมการเห็นครับ เค้าจะไม่พูดไม่ถาม แต่จะสังเกตเราอย่างเดียว


พอเราเปิด switch on แล้ว รอแป๊บนึง ทำเป็นมองไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัดว่าทุกอย่าปกติก่อนครับ แล้วค่อย start เครื่อง เมื่อเครื่องติดแล้ว รอซักพัก มองไฟเตือนต่างๆ อีกรอบครับ กรรมการจะจ้องดูว่าเราทำอะไรบ้างอยู่แล้ว


จากนั้น ปลดเบรกมือครับ มองซ้ายสองขวาเช็คกระจก ก่อนให้สัญญาณไฟ แล้วก็ออกตัวได้ครับ เราเริ่มต้นสอบขับจริงๆ แล้ว


การขับรถที่นี่ ต้องเคารพกฎ MSM ครับ คือ Mirror Sign Maneuver คือก่อนทำอะไร เช่นออกตัว เปลี่ยนเลน ต้องดูกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ เมื่อปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลนหรืออกตัว หรือหยุดครับ


ซึ่งในการสอบจริง ก่อนเปลี่ยนเลน ก่อนหยุด ก่อนเลี้ยว เราต้องมองกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ ถึงจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนได้ครับ ถ้าเราทำไม่ครบ หรือเผลอ เช่นเปิดไฟเลี้ยวก่อนที่จะมองในกระจกมองหลัง กรรมการจะบันทึกไว้ครับ ถือเป็น Driving Fault ซึ่งเราจะทำผิดแบบนี้ได้ไม่เกิน 15 ครั้งตลอดการสอบ


การสอบ Practical test จะมีระดับความผิดพลาด 3 ระดับครับ คือ


1 Dangerous Fault ขับอันตราย เช่นเราตัดหรือปาดหน้าชาวบ้าน หรือกรรมการเห็นว่าการขับของเราอันตราย เค้าจะให้เราหยุดสอบแล้วกลับศูนย์สอบเลยครับ การทำ Dangerous Fault แค่ครั้งเดียว ก็ตกเลยครับ ไม่มีโอกาสแก้ตัว



2 Serious Fault อันนี้รองจาก Dangerous Fault ครับ เช่น การกลับรถหรือถอยหลังโดยไม่มีการเช็คจุดบอดหรือ Blind spot ก่อน ใช้แต่กระจกมองข้างหรือมองหลัง ถือว่าระมัดระวังไม่เพียงพอ หรือเวลาถอยหรือกลับรถ รถเราชนขอบถนนครับ ผิดแบบนี้แค่ครั้งเดียวก็สอบตกเลยเช่นเดียวกับ Dangerous Fault ครับ ผิดแบบนี้เศร้า เพราะกรรมการจะให้เราขับต่อไปจนสอบเสร็จ ถึงจะบอกเราตอนหลังครับ ระหว่างนั้นจะไม่บอกเราเลย



3 Driving Fault เช่นการเข้าเลนผิด ลืมเช็คกระจกก่อนให้สัญญาณ จอดรถติดไฟแดงล้ำเส้นหยุด ฯลฯ แบบนี้ผิดได้ไม่เกิน 15 ครั้งครับ


การสอบ กรรมการจะให้เราขับไปตามเส้นทางต่างๆ แล้วแต่กรรมการจะเลือกครับ ในการสอบ กรรมการจะให้เราทำอย่างใดอย่างหนึ่ง 2 อย่างจากทั้งหมดนี้ครับคือ

1 กลับรถบนถนน (the turn in the road) กรรมการจะให้เราเข้าซอย แล้วให้กลับรถกลางถนนเลยครับ เราต้องระวังไม่ให้ชนขอบถนน รวมทั้งก่อนและระหว่างกลับรถ เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว

2 Reverse around Conner ครับ กรรมการจะให้เราจอดรถแล้วเลยทางแยกซ้ายมือ แล้วให้เราถอยท้ายเข้าไปในถนนแยกทางซ้ายนั้นครับ โดยให้รถเราไม่อยู่ห่างขอบถนนมากเกินไป เช่นเดียวกันอันแรก เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว เจอสองอันนี้ ตกจากทั้งสองอัน

3 Parallel Parking คือถอยจอดเข้าระหว่างรถที่จอดริมถนนครับ กรรมการจะให้เราไปจอดตีคู่ข้างๆ รถที่จอดริมถนนซักคัน แล้วให้เราถอยเข้าจอดหลังรถนั้นนั้นครับ

4 ถอยจอดเข้าซองครับ คือการถอยท้ายเข้าจอดตามช่องจอดรถในลานจอดทั่วไปครับ อันนี้มักจะสอบสุดท้ายเลย


5 Emergency Stop ครับ กรรมการจะให้ขับไปเรื่อยๆ แล้วยกมือให้สัญญาณให้เราหยุดรถทันที เราก็หยุดให้เร็วที่สุดครับ มือทั้งสองกำแน่นบนพวงมาลัยไว้ ไม่ต้องมองหลังเช็คกระจก หรือให้สัญญาณใด ๆ ก่อนหยุดครับ กรรมการจะเช็คให้ก่อนแล้ว แค่หยุดให้เร็วที่สุดครับ แล้วก็ควบคุมรถให้ได้ ไม่สะบัดหรือไถล


นอกจากพวกนี้แล้ว กรรมการจะขอให้เราจอดรถข้างทางหลังคันอื่นครับ อาจจะเป็นบนเนินด้วย แล้วให้ออกตัวใหม่ เค้าจะเช็คว่าในการจอด เราทำขั้นตอนถูกต้องไหม เช่น มีการใช้เบรคมือตอนจอดไหม ซึ่งควรจะใช้นะครับ และก่อนออกตัวใหม่ เราได้เช็คจุดบอดต่างๆ โดนการเหลียวหลังหรือไม่ การใช้แต่กระจกมองหลังและมองข้างไม่เพียงพอครับ มีการให้สัญญาณถูกต้องหรือเปล่า

เค้าจะให้เราหยุดและออกตัวแบบนี้ 2 ครั้งครับ อีกอย่างที่ต้องระวังคือการขับผ่านวงเวียนครับ ที่อังกฤษมีวงเวียนเยอะมาก เราต้องใช้ให้ถูกเลนและให้สัญญาณให้ถูกกฎนะครับ



สำหรับข้อมูลคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำ link เหล่านี้ครับ มีตัวอย่างและคำแนะนำต่างๆ ให้ดูด้วย
//www.2pass.co.uk/pract.htm

อันนี้เป็นประโยชน์มากครับ จะมีสอน How to do //www.2pass.co.uk/cockpit.htm จะบอกว่าเทคนิคต่างๆ เราควรทำอย่างไร มีรูปประกอบให้เข้าใจง่ายด้วย

//www.squidoo.com/practical-driving-test อันนี้เช่นการ มีคำอธิบายต่างๆ เป็นประโยชน์

//athingforcars.com/driving-safety/why-people-fail-driving-tests/ อันนี้บอกว่าทำไมคนถึงสอบตกกันครับ ดูไว้ จะได้ไม่ทำ

นี่เป็นตัวอย่าง Link ต่างๆ จริงๆ แล้วมีมากกว่านี้ครับ แต่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น


เมื่อสอบเสร็จ กลับมาศูนย์สอบแล้ว กรรมการจะแจ้งเราเลยว่าเราผ่านหรือตก ถ้าเราตก เค้าจะบอกว่าเราตกเพราะอะไร มีใบเอกสารบอกข้อผิดพลาดของเราให้ ซึ่งเราสามารถสอบใหม่ครั้งต่อไปได้หลังจาก 10 วันครับ ต้องสมัครและเสียตังค์ใหม่นะครับ 62 ปอนด์


ถ้าเราผ่านหละ หลังจากรอให้เราหุบยิ้มแล้ว กรรมการจะขอ Provisional Licence เราครั้ง ทั้งสองใบ แล้วเค้าจะถามเราเรื่องที่อยู่อีกที จากนั้นเค้าจะออกใบรับรองให้เรา 1 ใบว่าเราสอบผ่านแล้ว พร้อมหนังสือคู่มือสำหรับนักขับมือใหม่ แล้วเราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ กลับบ้านได้เลย เดินไปเอา L Plate ออกจากรถได้แล้ว


ใบขับขี่ใบใหม่ ทางกรรมการสอบจะจัดการส่งเอกสารต่างๆให้เรา และทาง DSA ที่ดูแลเรื่องอการออกใบขับขี่ จะส่งใบขับขี่ Full Driving Licence มาให้เราที่บ้านเองครับ เราแค่นอนตีพุงปุ ๆ รอที่บ้านเท่านั้น


คำแนะนำสำหรับการสอบนะครับ คือเค้าต้องการดูว่าเรามีมาตรฐานการขับถึง standard ที่นี่หรือยัง หัวใจของการสอบคือการระมัดระวังและรอบคอบที่สุดครับ ก่อนออกตัว ระหว่างขับ รถหว่างถอย ต้องเหลียวมองเช็คให้รอบเช็คตลอดครับ

ออก action มาก ๆ ให้เห็นว่าเรารอบคอบที่สุดแล้ว ป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คอยเช็คกระจกมองหลังบ่อยๆ ก็จะผ่านได้ไม่ยากครับ ที่นี่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก


ดังนั้นไม่แปลกใจเลยจากการขับรถที่นี่มา 2-3 เดือน ผมแทบจะไม่เจอการแซงลัดคิว หรือแย่งเลนกันแบบเมืองไทยเลยครับ รถติดยาวแค่ไหน คนที่นี่ก็จะรอในเลน ไม่มีแบบวิ่งขวาแซงยาวเข้ามาปาดแบบบ้านเรา มารยาทคนขับที่นี่โดยรวมผมว่าดีกว่าบ้านเราเยอะครับ ส่วนนึงอาจจะเพราะใบขับขี่เค้า ไม่ได้มาง่ายๆ แบบบ้านเราด้วย แต่ในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนไม่ทราบนะครับ ผมขับแต่เมืองบ้านนอกเท่านั้น แต่ที่ขับแย่ที่สุดก็คล้ายๆ บ้านเรา พวก Taxi ครับ

จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการสอบบ้างนะครับ



Pass mark and test result


You’ll get the result at the test centre after taking the theory test. You must pass both parts to pass the test.
Test partPass markPoints available
Multiple-choice questions4350
Hazard perception4475
ค่าใช้จ่ายสำหรับสอบใบขับขี่ใน  UK

Driving test costs




A theory test costs £23 for cars, and the driving test costs £62. The full costs for lorries, buses, motorcycles and other vehicles are shown in the tables.
These are the prices to book your theory test and book your driving test through GOV.UK. Unofficial websites usually charge more.

Car

Test typeWeekdaysEvenings, weekends
and bank holidays
Theory test£23£23
Abridged theory test - you must have a Safe Road User Award to take this£18£18
Driving test£62£75
Extended driving test for disqualified drivers£124£150
























ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test



ที่มา  ::  การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 4 Practical test   ; https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vijak&month=12-2009&date=16&group=5&gblog=6



เรียบเรียงโดย  ::   ประภัสรา  โคตะขุน  ;   http://prapasara.blogspot.com



 



























บทความที่เกี่ยวข้อง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น