ศูนย์ LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

22 กันยายน 2561

งาดํา สรรพคุณและประโยชน์ของงาดำ 29 ข้อ !

งาดํา สรรพคุณและประโยชน์ของงาดำ 29 ข้อ !




























งาดำ


งาดำ ชื่อสามัญ Black Sesame Seeds

งาดำ ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sesamum indicum L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Sesamum orientale L.)จัดอยู่ในวงศ์งา (PEDALIACEAE)

งาดำ จัดเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มากมาย การรับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายของคุณจะแข็งแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอย่างแน่นอน และเป็นยาที่รักษาได้ทุกโรค ในหะดีษหนึ่งท่านศาสนทูตได้กล่าวว่า إن في الحبة السوداء شفاء من كل داء إلا السأم ความว่า แท้จริงในงาดำนั้นสามารถรักษาได้ทุกโรค ยกเว้นความตาย

งาดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอย่างวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น โดยสามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ ระบบขับถ่าย การบำรุงหัวใจ จึงเหมาะกับทุกวัย แม้กระทั่งเด็กที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว หรือผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล

ประโยชน์ของงาดำ


  1. งาดำมีความสำคัญอย่างมากต่อความสมบูรณ์ของร่างกาย
  2. ช่วยชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์
  3. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  4. ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ
  5. ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง และช่วยให้ผมดกเงางาม
  6. ช่วยป้องกันผมหงอก
  7. ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย
  8. ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
  9. ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
  10. ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
  1. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงยิ่งขึ้น
  2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  3. ช่วยลดความเครียด
  4. ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
  5. งาดำมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยบำรุงโลหิต
  6. ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
  7. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  8. การรับประทานงาดำพร้อมกันถั่วจะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน ซึ่งบางตัวเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้
  9. ช่วยให้นอนหลับสบาย ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
  10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
  11. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา และตะคริว
  12. ช่วยบำรุงกระดูกและป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
  13. ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  14. ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
  15. ช่วยต้านการอักเสบจากโรคข้อเสื่อม ยับยั้งการเสื่อมสลาย
  16. น้ำมันงาสามารถนำมาใช้เป็นยานวดร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาเส้นเอ็นอักเสบ
  17. น้ำมันงาช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก
  18. ผู้รับประทานมังสวิรัตินิยมใส่งาลงในอาหารถั่วเหลืองที่ปรุง เพื่อให้อาหารมีโปรตีนสมบูรณ์มากขึ้น
  19. ประโยชน์งาดำในการนำมาแปรรูปเป็นงาดำแคปซูล

(ผู้รับประทานบางรายอาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ลมพิษ ริมฝีเปลือกตาปากบวมแดง คันจมูก หายใจลำบาก ความดันโลหิตลดลงจนช็อกหมดสติ โดยอาการเหล่านี้อาจ เกิดขั้นทันทีหลังจากรับประทานจนถึง 90 นาที)


คุณค่าทางโภชนาการของงาดำต่อ 100 กรัม


  • งาดำคาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
  • พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่ 2397 กิโลจูล
  • เส้นใยอาหาร 11.8 กรัม
  • โปรตีน 17.73 กรัม
  • น้ำ 4.69 กรัม
  • น้ำตาล 0.30 กรัม
  • ไขมันรวม 49.67 กรัม
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม
  • กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
  • กรดกลูตามิก 3.955 กรัม
  • กรดแอสพาร์ติก 1.646 กรัม
  • เมไธโอนีน 0.586 กรัม
  • ทรีโอนีน 0.736 กรัม
  • ซีสทีอีน 0.358 กรัม
  • ซีรีน 0.967 กรัม
  • ฟีนิลอะลานีน 0.940 กรัม
  • อะลานีน 0.927 กรัม
  • อาร์จินีน 2.630 กรัม
  • โปรลีน 0.810 กรัม
  • ไกลซีน 1.215 กรัม
  • ฮิสทิดีน 0.522 กรัม
  • ทริปโตเฟน 0.388 กรัม
  • ไทโรซีน 0.743 กรัม
  • วาลีน 0.990 กรัม
  • ไอโซลิวซีน 0.763 กรัม
  • ลิวซีน 1.358 กรัม
  • ไลซีน 0.569 กรัม
  • ไฟโตสเตอรอล 714 มิลลิกรัม
  • เบต้าแคโรทีน 5 ไมโครกรัม
  • วิตามินเอ 9 หน่วยสากล
  • วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.791 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.247 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 4.515 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.050 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 9 97 ไมโครกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 975 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
  • ธาตุซีลีเนียม 5.7 ไมโครกรัม
  • ธาตุโซเดียม 11 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมงกานีส 2.460 มิลลิกรัม
  • ธาตุทองแดง 4.082 มิลลิกรัม

(ข้อมูลจาก : www.black-sesame-seeds.com)

การรับประทานงาดำเพื่อให้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดก็คือการรับประทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะรับประทานงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้ประโยชน์มากที่สุด แต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม ในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลย ซึ่งวิธีการรับประทานก็ง่าย ๆ ด้วยการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีตรับประทานทุกเช้าวันละ 10 ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ แต่สำหรับคนวัยทำงานก็วันละ 3-4 ช้อนก็เพียงพอแล้ว หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกัน แต่การรับประทานที่ดีนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะสมพร้อมรับประทานให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดและหลากหลาย นอกจากการรับประทานแล้วสามารถนำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดและรักษาเส้นเอ็นที่บาดเจ็บ เพราะน้ำมันงามีสรรพคุณที่ช่วยนำพาสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ถูกนำมาผสมดูดซึมเข้าไปได้ดีขึ้น

สำหรับการเลือกซื้อเมล็ดงาดำควรเลือกซื้องาดำที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน ไม่ควรซื้อที่ที่แบ่งขายตามร้านขายของชำ เพราะอาจจะเสี่ยงกับมูลแมลงสาบและแมลงอื่น ๆ และไม่ควรซื้อแบบที่บดสำเร็จมาแล้วเนื่องจากอาจมีเชื้อราติดมาด้วย เมื่อซื้อมาใช้แล้วควรเก็บใส่ขวดปิดฝาให้มิดชิด เพราะถ้าหากทิ้งไว้นานโดยไม่ปิดฝาให้มิดชิดจะทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนได้




































ที่มา  : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)

เว็บไซต์เมดไทย (MedThai)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น